โอเว่นพ่อมด ไมเคิ่ล โอเว่น และก็ แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ฟันธงเกม เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ หงส์แดง ชัยจะเป็นของฝั่งสีน้ำเงินหรือสีแดง

โอเว่นพ่อมด แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ตำนานนักฟุตบอลพ่อมดของ เซาธ์แฮมป์ตัน มั่นใจว่า เอฟเวอร์ตัน จะสู้กับ หงส์แดง ได้อย่างสนุกในเกม เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค วันเสาร์ที่ 17 เดือนนี้ (18.30 น. ตามเวลาไทย) เนื่องจากว่านักฟุตบอล “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” กำลังอยู่ในตอนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจเต็มเปี่ยม

ในช่วงฤดูกาลนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอิตาเลียน พา เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานได้อย่างดียิ่งคว้าแชมป์ในลีก 4 นัดติดมี 12 คะแนนเต็มขึ้นนำเป็นผู้นำฝูงของตาราง ระหว่างที่ แชมป์เก่า รั้งชั้น 5 มี 9 คะแนน ทำให้หลายข้างมั่นใจว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ได้โอกาสคว้าชัยเหนือคู่ต่อสู้ร่วมเมือง หลังจากที่ ชนะหนสุดท้าย จำเป็นต้องย้อนไปถึงต.ค. ปี 2010 ผลบอลสด 7M

เลอ ทิสซิเอร์ แสดงความเห็นผ่านรายการ แกรี่ นิวบอน สปอร์ตส์ โชว์ ว่า “ผมคิดว่า นี่จะเป็นเกมที่สวยสวยมากมายสุดในรอบหลายปีหลังจาก เอฟเวอร์ตัน ออกสตาร์ตซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ ผมคิดว่า พวกเขาจะลงเล่นด้วยความเชื่อมั่นมากยิ่งกว่าตอนไหนในเกมเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ของพวกเขา”

“เวลาที่ หงส์แดง กำลังไม่ได้อยู่ในตอนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจภายหลังจากพวกเขาโดน แอสตัน วิลล่า ถล่มยับ ผมมีความรู้สึกว่า เกมนี้จะมีการทำแต้มกันหลายลูก และก็มีความรู้สึกว่า สกอร์น่าจะจบลงอย่างการเท่ากันไป 2-2” ตำนานลำแข้ง “นักบุญ” เปิดเผย

ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานแผงหน้า หงส์แดง มั่นใจว่า “ลิเวอร์พูล” จะบุกไปเก็บชัยชนะได้อย่างเฉียดฉิว แล้วก็น่าจะเป็นเกมที่เล่นกันได้อย่างเบิกบานใกล้เคียง ข้างหลังเจ้าถิ่นประเดิมฤดูกาลดีเยี่ยมที่สุด

“นี่จะเป็นเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ที่พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอคอยมากสุดในรอบนับเป็นเวลาหลายปี ออกสตาร์ตได้ยอดเยี่ยม ช่วงเวลาที่ จำต้องพบความ เจ็บปวดหลังแพ้ แอสตัน วิลล่า ถึง 2-7 มันได้โอกาสเป็นเกมคลาสสิก แม้กระนั้น ในที่สุดผมมั่นใจว่า จะเชือดได้ อย่างหวุดหวิด 2-1” โอเว่น มีความเห็นผ่าน เบต วิคเตอร์

เอ่ยชื่อ ไมเคิล โอเวน อาจจะไม่มีแฟนลูกหนังใครไม่ทราบใช่มั้ยนะครับ ขณะนี้ภายหลังจากเลิกค้าแข้งเขาหันมาเอาดีทางการเป็น Pundit หรือผู้วิเคราะห์เกมให้กับทางพรีเมียร์ลีก ด้วยบริเวณใบหน้าเปื้อนยิ้มมีเสน่ห์บวกความรู้ความเข้าใจเกม เสมือนเขาจะปฏิบัติหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ยามยุคเมื่อโลดแล่นอยู่ในทุ่งหญ้าเขียวขจี

มองไปและก็อดย้อนนึกถึงยุคได้รับสมญาว่าเป็น “เบบี้โกล์” ในสมัยเดียวกับ “เพชฌฆาตหน้าทารก” อย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชา ซึ่งเดี๋ยวนี้นั่งแท่นที่ปรึกษาถิ่นโอลด์ แทร์ฟฟอร์ด ตอนนั้นถือว่า โอเวนเป็นนักฟุตบอลมหัศจรรย์ที่เกาะอังกฤษ ติดทีมชุดใหญ่ของหงส์แดงตั้งแต่อายุเพียงแต่ 17 ปี ถัดมาก็ดังระเบิดเถิดเทิงกับกลุ่มชาติอังกฤษในทัวร์นาเมนต์บอลโลก 1998 ที่เขาลากบอลเข้าไปทำประตูกลุ่มอาร์เจนตินาอย่างสุดงาม ในเวลาเพียงแค่ไม่นานแปลงเป็นขวัญใจ “เดอะ ค็อป” ทั่วทั้งโลกแล้วก็ในประเทศไทย

อาจยังจำกันได้ว่าภายหลังจากพา “หงส์” ได้เทรเปิลแชมป์เมื่อปี 2001 ในสมัยของเชราร์ อุลลิเยร์ “เบบี้โกล” ได้เดินทางมาเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนบอลชาวประเทศไทยในนัดหมายเฟรนลี่ย์แมทช์ที่กรุงเทพฯ

สมัยนั้นโอเวนจับคู่ กับเอมิล เฮสกีย์ แนวรุกที่หลายๆคนบางทีอาจจะประทับใจฟอร์มนัก แต่ว่าไม่น่าเชื่อครับผม โอเวนนั้นเคยเปิดใจว่า ในบรรดาคู่คิดที่เขาเล่นร่วมด้วยทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น ร็อบบี ฟาวเลอร์, ยารี ลิตมาเนน แล้วก็ อลัน เชียเรอร์, เวย์น รูนีย์ ในกลุ่มชาติอังกฤษ เขาถูกใจจับคู่กับเฮสกีย์เยอะที่สุด เพราะเหตุว่าเข้ากันรู้ใจแม้ว่าจะมีความต่างกันทุกทาง อีกทั้งเรื่อง รูปร่าง, สไตล์การเล่น, ความชำนาญต่างๆแต่ว่ามันเปลี่ยนเป็นส่วนประกอบที่พอดีที่สุด ไม่ได้ทะเลาะ

ถ้าหากขีดเส้นจบแค่นี้ ไมเคิล โอเวน คงจะเปลี่ยนเป็นตำนานในถิ่นแอนฟิลด์ได้ไม่ยาก แม้กระนั้นพอเพียงปี 2004 สมัยของ ราฟา เบนิเตซ เขากลับตกลงใจย้ายกลุ่มข้างหลังได้รับข้อเสนอแนะจาก เรอัล มาดริด สมัยกาแลคติกอส แม้ว่ามีเสียงเพื่อนๆทักท้วงว่า “ย้ายไปแล้ว เธอจะได้เล่นตัวใช่หรือวะไอ้ทิด?”

แต่ว่าโอเวนในนาทีนั้นหาฟังไม่ เขาเปิดเผยความรู้สึกในคราวหลังว่าเป็นการตกลงใจอันเหนื่อยยากที่สุด โดยยิ่งไปกว่านั้นระหว่างนั่งแท็กซี่ไปท่าอากาศยาน ความรู้สึกกำลังทิ้งเมืองที่เขาเติบโตขึ้นมานั้นเกินเล่า

อีกมุมหนึ่งเขาก็มีความคิดว่าหากทิ้งข้อเสนอแนะของกลุ่มระดับ “ราชันชุดขาว” ซึ่งสมัยนั้นมีนักเตะสุดยอดคับกลุ่มลงชักโครก ตัวเขาเองคงจะตายตาไม่หลับเป็นแน่แท้

ต่อจากนั้นไม่นาน โอเวนไม่ประสบความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด (ตามคาด) เขารับว่าในขณะนั้นต้องการกลับมาเล่นหงส์แดงสุดหัวใจ แม้กระนั้น “ราชันชุดขาว” คลอดลูกเขี้ยวโก่งค่าจ้างเขาเอาไว้ถึง 16 ล้านปอนด์ หรือสองเท่าจากในตอนที่ซื้อไป

โอเว่นพ่อมด มีเพียงแค่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ดกลุ่มเดียวเพียงแค่นั้นที่กล้าสู้ราคา ด้วยเหตุผลดังกล่าวเขาก็เลยจำเป็นต้องกลับมาค้าหน้าแข้งในอังกฤษกับ “สาลิกาดง” ยืนกับ อลัน เชียเรอร์ คู่คิดกลุ่มชาติอังกฤษในสมัยนั้น ทุกสิ่งดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่โอเวนกลับโชคร้ายจำต้องเจอกับการบาดเจ็บหนักจะต้องหยุดเล่นไปเป็นปี ซึ่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่ามันทำให้เขาไม่สามารถที่จะใช้ความเร็วจากสปีดต้นสายฟ้าแล่บเสมือนยุคชายหนุ่มๆได้อีกเลย

“เบบี้โกล” ล้มเหลวเป็นคำรบสองรวมทั้งพอหมดข้อตกลงในถิ่นไทน์ไซด์ เป็นอีกทีที่เขาพยายามกลับสู่ถิ่นแอนฟิลด์ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากสโมสรเก่า มีเพียงแค่คำแนะนำจาก เอฟเวอร์ตัน คู่แข่งขันร่วมเมือง รวมทั้งจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับของหงส์แดง

โอเวนยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้เลือก จึงควรตกลงใจเพื่อสิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดให้ตนเอง เขาไปร่วมกลุ่ม “ปีศาจแดง” ในปี 2009 และก็สร้างความขุ่นเคืองให้แฟนหงส์อย่างมาก แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็บรรลุความฝันได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนได้

ทางชีวิตบนถนนลูกหนังแบบ ไมเคิล โอเวน คงจะเกิดขึ้นกับคนใดอื่นอีกได้ยากเย็นนัก ไม่น่าเชื่อมีนักเตะเพียงแค่ไม่กี่คนเพียงแค่นั้นที่ได้เล่นให้อีกทั้ง หงส์แดง แล้วก็ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในระดับระดับซูเปอร์สตาร์หาได้ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน

โอเว่นพ่อมด ณ วันนี้พอใช้ได้พบ ไมเคิล โอเวนอีกทีในหน้าที่ผู้พินิจพิจารณา ขอให้ได้รู้เอาไว้ว่ามองเห็นหน้ายิ้มๆอย่างงี้ กล้าหาญมุทะลุก่อปัญหาไว้มากเช่นเดียวกัน หากแม้จะมิได้รับการยอมรับจากแฟนหงส์อย่างเต็มหัวใจดังเดิม แม้กระนั้นอาจจะไม่มีผู้ใดกล้าไม่ยอมรับความรู้ความเข้าใจยุควัยรุ่นของเขาที่เคยพาลิเวอร์พูลบรรลุเป้าหมายจำนวนมาก โดยเฉพาะถ้วยเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2001 ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โอเว่น ไฟนอล” เลยทีเดียว