เลสเตอร์ฟาด ลิเวอร์พูล กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เจอกันเมื่อไหร่ไม่เคยทำให้แฟนบอลผิดหวัง เนื่องจากต่างก็เป็นทีมที่เน้นเกมบุกเดินหน้าฆ่าลูกเดียว ถอยหลังไม่เป็นทั้งคู่

เลสเตอร์ฟาด ลิเวอร์พูล กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เจอกันเมื่อไหร่ไม่เคยทำให้แฟนบอลผิดหวังเนื่องจากต่างก็เป็นทีมที่เน้นเกมบุกเดินหน้าฆ่าลูกเดียว ถอยหลังไม่เป็นทั้งคู่ เพียงแต่เกมรับของ เดอะ ฟ๊อกซ์ ออกจะน่าเป็นห่วงอยู่สักหน่อย

ล่าสุดที่ฟ้องให้เห็นเป็นเกม คาราบาวคัพ รอบแปดทีมที่ แอนฟิลด์ ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 แต่เป็น เร้ด แมชีน ที่ชนะการดวลลูกโทษ จนในที่สุด ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็เปิดบ้านเอาคืนทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก พรีเมียร์ลีก

ด้วยการเฉือนเอาชนะ หงส์แดงไปได้อย่างน่าเสียวไส้ชวนให้หัวใจวาย 1-0 และนี่คือประเด็นที่น่าสนใจในเกมที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม แผงหลังอย่างหนาของเลสเตอร์ซิตี้ ปกติทีม เดอะ ฟ็อกซ์ ไม่ได้ขึ้นชื่อในเรื่องเกมรับมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

และจากโผ 11 คนแรกในเกมต้อนรับลิเวอร์พูล แกนนำในแนวรับของพวกเขายังหายหน้าไปหลายรายเนื่องจากบาดเจ็บจึงถือว่าน่าหนักใจแทน ร็อดเจอร์ส ไม่น้อยที่ต้องมาเจอกับทีมที่มีเกมรุกสุดอันตรายอย่างลิเวอร์พูล

ซึ่งไม่ได้ส่งชุดสำรองลงเล่นเหมือนฟุตบอล คาราบาวคัพ โดยเฉพาะในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูลคือทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด 50 ลูกเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ ขณะที่เลสเตอร์ซิตี้ เสียประตูไปแล้ว 33 ลูกจาก 17 เกมก่อนหน้านี้ มากกว่าทีมในโซนตกชั้นอย่าง เบิร์นลีย์ ซะอีก

อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้ว แผงหลังที่พิกลพิการของเลสเตอร์ ช่วยกันยันเกมรุกที่บ้าคลั่งของลิเวอร์พูล ได้อยู่หมัด และแม้ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์จะมีโอกาสสับไกมากถึง 21 ครั้ง แต่ก็เข้ากรอบแค่ 4 ครั้ง และไม่อาจเปลี่ยนเป็นประตูได้

ลูกโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถ้าสตาร์ทีมชาติอียิปต์ซัดลูกโทษตั้งแต่ต้นเกมได้สำเร็จ เร้ด แมชีน ก็อาจคว้าสามแต้มได้อย่างไร้ปัญหา และน่าจะมีสกอร์ที่ขาดลอยอีกเกม แต่แล้วเรื่องที่เหลือเชื่อก็เกิดขึ้นจนได้

เนื่องจาก แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เซฟลูกโทษสุดสำคัญจากเพชฌฆาตเท้าฉมังที่สุดคนหนึ่งของวงการได้สำเร็จเนื่องจากซาลาห์ มีสถิติยิงลูกโทษที่วางใจได้จากการสังหารในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่พลาดมานาน 15 ลูก

โดยครั้งสุดท้ายที่พลาดเป็นเกมกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ เมื่อเดือนต.ค.2017 เท่านั้นแหละ เหมือนกับว่า คิง ออฟ อียิปต์ หมดความเชื่อมั่นไปในบัดดล แม้จะมีโอกาสเช็คบิลในเกมอีก แต่เหมือนกับว่าเขาไม่มีสมาธิแล้ว

เลสเตอร์ฟาด ตรงข้ามกับ ชไมเคิ่ล ซึ่งเหมือนผีเข้าหลังเซฟลูกโทษจากซาลาห์ ได้เพราะจากนั้นมือกาวทีมชาติเดนมาร์คก็เซฟลูกอันตรายได้อุตลุดกระทั่งพาทีมคว้าชัยได้อย่างน่าประทับใจ บ้านผลบอล

เลสเตอร์ฟาด

ด้วยการเฉือนเอาชนะ หงส์แดงไปได้อย่างน่าเสียวไส้ชวนให้หัวใจวาย 1-0

เลสเตอร์ฟาด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม สังเวียนแข้งแห่งนี้น่าจะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลลิเวอร์พูล ไปอีกนานหลังจากซีซั่นก่อน หงส์แดงก็เอาชื่อมาทิ้งที่นี่ในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งส่งผลให้พวกเขาชวดลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในท้ายที่สุด

และไม่แน่ว่าบางทีประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยอีกก็ได้หลังทีมของกุนซือชาวเยอรมันถูก เดอะ ฟ็อกซ์ ทำแสบเข้าให้อย่างไม่น่าเชื่ออีกคำรบ ย้อนอดีตกลับไปเมื่อเดือนก.พ. กองเชียร์ เร้ด แมชีน อาจยังจำกันได้ว่าซาลาห์ ซัดประตูพาทีมบุกมานำที่สนามแห่งนี้

แต่เป็น เจมส์ มิลเนอร์ ที่ปั่นฟรีคิกตีเสมอให้เลสเตอร์ ก่อนที่ อลิสซง กับ โอซาน คาบัค จะก่อควาผิดพลาดเปิดโอกาสให้ เจมี่ วาร์ดี้ ซัดประตูโล่งๆ จากนั้น ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ก็มาซัดลูกปิดกล่องก่อนหมดเวลาห้านาทียัดเยียดความปราชัยที่แสนชอกช้ำให้กับลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 3-1

ช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อของลิเวอร์พูล หลังพ่ายให้กับเลสเตอร์ ลิเวอร์พูลจะมีเกมลีกบุกไปเยือน เชลซี ในวันอาทิตย์ที่ 2 ม.ค. แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่สามารถชี้อนาคตของทั้ง หงส์แดงและ สิงห์บลูส์ ได้เลยต่อโอกาสการยื้อแย่งลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้ไปจาก แมนฯซิตี้

อย่างไรก็ดี หงส์แดงมีเรื่องให้โล่งอกไม่น้อยเนื่องจากเป็นอันแน่นอนว่าสตาร์แอฟริกันทั้งหลายของทีมไม่ว่าจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ซาดิโอ มาเน่ และ นาบี้ เกอิต้า สามารถลงเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ก่อนอำลาสโมสรไปรับใช้ชาติในรายการ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่น

ฉะนั้นแล้ว จึงเชื่อได้เลยว่าทั้งหมดจะต้องทุ่มเทกันอย่างสุดชีวิตในเกมทิ้งทวนเพื่ออำลาสโมสรเป็นการชั่วคราวอย่างดีที่สุด ถัดจากนั้น หงส์แดงก็ต้องเจอกับทีมที่ฟอร์มแรงอย่าง อาร์เซน่อล ในเกม คาราบาวคัพ รอบตัดเชือกนัดแรกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

และจากบทเรียนในรอบแปดทีมรายการนี้ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เกือบหมดลุ้นแชมป์เนื่องจากโรเตชั่นทีมอย่างหนักจนหวิดเสียท่าให้กับเลสเตอร์ซิตี้ คา แอนฟิลด์ ก็น่าจะทำให้ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันคิดหนักต่อการจัดทัพ

แม้เชื่อว่าน่าจะมีการโรเตชั่นทีมบางตำแหน่ง แต่คงไม่ยกแผงเหมือนเกมกับ เดอะ ฟ็อกซ์ เพราะอย่างน้อยลิเวอร์พูล ก็มีอีกเกมกับ เดอะ กันเนอร์ส รออยู่ในบ้านตัวเองซึ่งจะอุบัติขึ้นหลังจากนั้นแค่สัปดาห์เดียว

เลสเตอร์กับเส้นทางที่สดใส นับตั้งแต่เปิดบ้านสยบ วัตฟอร์ด 4-2 ช่วงปลายเดือนพ.ย. เดอะ ฟ็อกซ์ ก็มีผลงานที่ย่ำแย่มาโดยตลอดหกถัดมาก่อนปะทะกับลิเวอร์พูล โดยในจำนวนนี้ ทีมของ บีร็อด กำราบ นิวคาสเซิ่ล ในเกมลีกที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม 4-0 ได้แค่นัดเดียวเท่านั้น

จากทุกรายการ และเป็นการแพ้ไปถึงสี่นัด รวมถึงเกม คาราบาวคัพ กับ เร้ด แมชีนด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อเหลือบดูโปรแกรมข้างหน้าของ เลสเตอร์แล้ว บอกได้เลยว่านับเป็นโอกาสทองที่พวกเขาจะเร่งเก็บแต้มขยับอันดับในตารางให้สูงขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่สักที

เลสเตอร์ฟาด ด้วยเพราะในอีกห้านัดข้างหน้าเลสเตอร์ ไม่มีเกมที่ยากจนเกินไปโดยพวกเขาจะได้เล่นกับทีมในโซนล่างของตารางซะเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะต้องเปิดทางให้หงส์แดง ได้ชำระหนี้แค้นในเกมลีกอีกยกที่ แอนฟิลด์ เดือนก.พ.ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น สุนัขจิ้งจอก ก็น่าจะเก็บแต้มได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว ตักเตือนขุนพล