เกมมันส์แต่ เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เกมปัจจุบันนับว่าความมันส์อยู่ในระดับ 5 ดาว มีประตูเกิดขึ้นถึง 4 ลูกแล้วก็มีใบแดงในช่วงท้าย

เกมมันส์แต่ ในตอนที่สกอร์การประลองอยู่ที่ หงส์แดง เป็นฝ่ายนำ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในนาทีที่ 79 แต่ทว่ากล้องถ่ายรูปถ่ายทอดของ บีที สปอร์ต ถ่ายภาพไปทาง พบร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล’ลิเวอร์พูล’ แล้วดันติดภาพของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้เฝ้าประตูดาวรุ่งวัย 21 ปีแอบงีบอยู่ข้างหลัง

เกมมันส์แต่

ซึ่งจากนั้นไม่กี่นาที ‘ทอฟฟี่สีน้ำเงิน’ มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกกระแทกของ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ในนาทีที่ 81 โดยทาง บีที สปอร์ต ได้โพสต์ทวิตเตอร์อำนายด่านดาวรุ่ง หงส์แดง พร้อมแคปชั่นว่า “เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ หนนี้มันน่าเบื่อไปนิดๆจน ควีวีน เคลเลเฮอร์ ทนไม่ไหว” ผลบอลสด 7M

เอฟเวอร์ตัน กลุ่มเจ้าถิ่นกลับจากที่ตามหลัง 1-2 ในครึ่งแรกกลับมานำ 3-2 ในนาทีที่ 82 แม้กระนั้นท้ายที่สุด แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ก็เป็นเลิศผู้เล่นสำรอง เมื่อลงมายิงประตูตีเสมอให้กลุ่มหงส์แดงได้เสร็จ

”เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้” หรือศึกระหว่างกลุ่มคู่แข่งขันร่วมเมืองหงส์แดง คือ ”ลิเวอร์พูล” กับ เอฟเวอร์ตัน จบลงไปด้วยการเท่ากัน 3-3 ที่ กูดิสัน พาร์ค ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 23 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการเท่ากันทั้งปวง 67 ครั้ง จาก 221 นัดหมาย ที่เหลือ หงส์แดง ชนะ 88 รวมทั้ง เอฟเวอร์ตัน

‘เมอร์ซี่ย์ไซด์” ดาร์บี้แมตช์ ครั้งที่ 221 จบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า เป็นเกมที่บันเทิงใจที่สุดในช่วงฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุว่ากลับไปกลับมาตลอด

เกมนี้เป็นหงส์แดง ที่ขึ้นนำก่อนจาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 5 แม้กระนั้นเจ้าถิ่นตามตีเสมอได้อย่างเร็วจาก เควิน มิรัลลาส ในอีก 3 นาทีถัดมา แม้ว่า”ลิเวอร์พูล”จะออกนำอีกหนจาก หลุยส์ ซัวเรซในนาทีที่ 19 แม้กระนั้น ”ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ก็ไล่เจ๊าได้อีกครั้งจาก โรเมลู ลูกากู ในนาทีที่ 72

จากนั้น เอฟเวอร์ตัน ก็เป็นฝ่ายแซงขึ้นนำบ้างจากลูกาเราเจ้าเดิมในนาทีที่ 82 แล้วก็เกมทำท่าว่าจะลงเอยด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่นแล้ว แม้กระนั้นผู้มาเยือนตายยากตามตีเสมอได้จาก แดเนียล สเตอร์ริดจ์ 89 ทำให้จำต้องแบ่งกันไปกลุ่มละ 1 คะแนน

เกมมันส์แต่

สเตอร์ริดจ์ ซึ่งทำไปแล้วทั้งสิ้น 9 ประตูในพรีเมียร์ลีก นำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกกลุ่มชาติ อุรุกวัย สหายร่วมกลุ่มของเขา โดยนัดนี้ สเตอร์ริดจ์ จำต้องลงเล่นเป็นตัวสำรอง

เพราะมีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บที่ต้นขาจากการไปเล่นให้กับกลุ่มชาติอังกฤษ ก่อนจะถูกสลับตัวลงในสนามในนาทีที่ 79 และก็เขาแผลงฤทธิ์พังประตูได้เสร็จ โดย 7 จาก 10 ประตูที่เขาทำเป็นในเกมพรีเมียร์ลีก ในฐานะผู้เล่นสำรอง เกิดขึ้นในนาทีที่ 87 หรือช้ากว่านั้น แล้วก็มีถึง 4 ลูก เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาเจ็บ

อย่างไรก็ตามไฮไลต์ของเกมนี้ ไม่ใช่ทั้งสเตอร์ริดจ์ หรือ ลูกากู หัวหอกกลุ่มเอฟเวอร์ตัน ที่ได้รับเลือกเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้ โดยพระอกของงานเป็น ซัวเรซ ที่เจ้าของกลุ่ม ”ลิเวอร์พูล” ส่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปรับกลับมาจากการไปเล่นให้กับกลุ่ม ”จอมโหด” ในศึกบอลโลกรอบคัดเลือก

เกมมันส์แต่ ซัวเรซ ยิงฟรีคิกสุดสวยให้หงส์แดงนำ 2-1 ต่อจากนั้น เขาโดน เควิน มิรัลลาส ของเอฟเวอร์ตัน ทำฟาวล์อย่างน่าเกลียด แม้กระนั้นไม่รัลลาสก็รอดตัวไม่โดนใบแดง โดย ฟิล ดาวด์ ที่ปฏิบัติหน้าที่วินิจฉัยในเกมนี้แจกแค่เพียงใบเหลือง ซึ่งถ้าเกิดจังหวะนี้ มิรัลลาสโดนใบแดง รูปเกมในช่วงหลังบางทีก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงก็ได้

ทางด้านเอฟเวอร์ตัน ก็จัดว่าน่าผิดหวัง ที่แพ้ เนื่องมาจากยิงได้สามประตู ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับพวกเขา ในเกม ”เมอร์ซี่ย์ไซด์” ดาร์บี้แมตช์ (เฉพาะเกมลีกสูงสุด) ซึ่งตั้งแต่แมื่อสิงหาคม ปี 1966 เป็นต้นมา พวกเขายิงได้สามลูกเพียงแค่สองนัดหมาย ซาลาห์ขึ้นแท่น

โดยอีกนัดหมายหนึ่ง เป็นเกมพรีเมียร์ลีก ที่พวกเขาเป็นข้างชนะ 3-0 ที่บ้าน เมื่อเดือน ก.ย. ปี 2006 และก็ทำให้ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมฟุตบอล ”ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ที่พึ่งเปิดฉากคุมกลุ่ม ทำศึกสงครามดาร์บี้แมตช์ ที่เมืองหงส์แดง เป็นครั้งแรก ชวดที่จะคุมชนะสำหรับ การคุมกลุ่มหนแรก

เอฟเวอร์ตันเสมอกับ หงส์แดง 3-3 ทำให้เป็นเกม ”เมอร์ซี่ย์ไซด์” ดาร์บี้แมตช์ (เฉพาะเกมลีกสูงสุด) ที่มีสกอร์เสมอสูงสุด โดยคราวสุดท้าย ที่ทั้งคู่กลุ่มเท่ากัน 3-3 เกิดขึ้นเมื่อเดือน ม.ค. ปี 1930 ที่ กูดิสัน พาร์ค

อาร์เซน่อล เปิดบ้านเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 2-0 ทำให้ ” ปืนใหญ่” ทำสถิติชนะในบ้านในเกมพรีเมียร์ลีก เป็นนัดหมายที่ ห้าต่อเนื่องกัน และก็เป็นครั้งแรก นับจากม.ย. ปี 2012

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางจอมเก๋าของ เชลซี กลับมาทำประตูได้อีกรอบ ในเกมที่กลุ่มบุกไปกระหน่ำ เวสต์แฮม กลุ่มเก่าของเขา 3-0 แล้วก็เป็นหยุดสถิติที่ แลมพาร์ดทำแต้มมิได้ในพรีเมียร์ลีก มา 10 ครั้งต่อๆกัน ซึ่งจัดว่านานที่สุด นับจากที่เขาย้ายจากกลุ่ม” ขุนค้อน” มาร่วมทีม ”สิงโตน้ำเงินคราม” ในปี 2001

สวอนซี บุกไปชนะ ฟูแล่ม 2-1 ภายหลังที่ได้สองประตูในช่วงหลัง โดยฤดูนี้ ”หงส์ขาว” ยิงได้เพียงแค่สามลูกในครึ่งแรก โดยมีเพียงแค่ คาร์ดิฟฟ์ (2) รวมทั้ง นอริช ซิตี้ (1) ที่ทำคะแนนได้ในครึ่งแรก น้อยกว่าพวกเขา

คริสตัล พาเลซ บุกไปชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 1-0 ภายหลังที่พวกเขาพึ่งตั้ง โทนี่ พูลิส เป็นที่ปรึกษาคนใหม่ โดยเซ็นสัญญาตรงเวลาสองปีครึ่ง

เกมนี้พูลิส ยังเพียงแค่มองเกมอยู่บนอัฒจันทร์ โดยมี คีธ มิลเล่น กุนซือชั่วครั้งคราวคุมกลุ่มเป็นนัดหมายท้ายที่สุด แต่ว่าก็ถือได้ว่าลางดี เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา 21 ปีในชีวิตการควบคุมกลุ่มของพูลิส กลุ่มของเขายังไม่เคยตกชั้นเลย

เกมมันส์แต่ เชือด นอริช 2-1 คว้าชัยเป็นนัดหมายลำดับที่สามต่อเนื่องกัน อย่างไรก็แล้วแต่ โชล่า อเมโอบี้ แผงหน้าของ ”สาลิกาดง” ที่ได้รับเลือกเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในนัดหมายนี้ ทำคะแนนให้กลุ่มในลีก มิได้มา 18 ครั้งต่อๆกันแล้ว