หงษ์ซื้อแข้งใหม่มาเสริม  ยืนยันว่าการทุ่มทุนเสิรมทัพของคู่แข่งในช่วงซัมเมอร์นี้

หงษ์ซื้อแข้งใหม่มาเสริม เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าการทุ่มทุนเสิรมทัพของคู่แข่งในช่วงซัมเมอร์นี้ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรในตลาดซื้อขายของทีมแต่อย่างใด

ข่าวคราวการซื้อแข้งใหม่มาเสริมทีมของ หงส์แดง ไม่ได้ฮือฮาอะไรมากมายนัก ผิดกับทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี สามทีมคู่แข่งแย่งแชมป์ที่ล้วนมีข่าวเสริมทัพด้วยแข้งระดับบิ๊กเนม โดยเฉพาะในรายของ แฮร์รี่ เคน และ เจดอน ซานโช่ แต่กุนซือชาวเยอรมันยืนยันว่าเรื่องการซื้อตัวของคู่แข่งไม่มีอิทธิพลอะไรกับทีมแน่นอน

ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรในช่วงตลาดครั้งถัดไป แน่นอนว่าเราจะไม่ใช้มันเป็นข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น คล็อปป์ กล่าว เมื่อมีเงินเราก็ใช้ เมื่อไม่มีเงินเราก็ไม่ใช้ ผมมีความสุขดีกับทีมของผม

ทีมชุดนี้จะยกระดับได้อีกไหม? แน่นอน เหมือนกันกับแต่ละทีม, จะมีการทุ่มซื้อนักเตะหรือไม่? ผมไม่รู้, มันจำเป็นหรือเปล่า ผมไม่รู้ในตอนนี้

ไม่ว่าสโมสรอื่นจะทำอะไรมันไม่ได้มีอิทธิพลกับธุรกิจของเรา เราจะตัดสินใจเรื่องการซื้อ-ขาย มันเป็นเรื่องปกติในช่วงซัมเมอร์

จะมีช่วงเวลาของปรีซีซั่นที่ผมหวังว่าเราจะมีทีมที่ร่วมกันซึ่งจะผ่านไปได้ตลอดทั้งฤดูกาล และเราสามารถเป็นทีมที่น่าอึดอัดที่สุดของคู่แข่ง เราอาจจะไม่ใช่ทีมดีที่สุดในโลกในช่วงสตาร์ทฤดูกาล แต่เราต้องการเป็นทีมที่ใครก็ตามไม่อยากจะเจอด้วยเพราะเราแข็งแกร่งและผมคิดว่านั่นเป็นไปได้

ผมคิดว่าจริงๆแล้วมันเป็นความรับผิดชอบของผมที่จะปรับปรุงทีมแม้จะปราศจากการซื้อนักเตะใหม่เข้ามา เรามีผู้เล่นในช่วงอายุที่ยอดเยี่ยมและเรามีแข้งเยาวชนซึ่งนั่นคือจุดสนใจหลักของผมในเวลานี้ ส่วนที่เหลือเราต้องมาดูกัน

สกาย สปอร์ตส์ นิวส์ สื่อเจ้าดังของอังกฤษรายงานว่า 6 สโมสรใหญ่ของอังกฤษเตรียมเข้าพูดคุยกับทางพรีเมียร์ลีกถึงบทลงโทษหลังจากที่พยายามก่อตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส เป็น 6 ทีมใหญ่จากแดนผู้ดีที่เข้าร่วมซูเปอร์ลีกร่วมกับอีก 6 สโมสรใหญ่ของยุโรป แต่สุดท้ายจากแรงต่อต้านอย่างหนักทำให้ทั้งหมดต้องถอนตัวออกมาท่ามกลางการประท้วงจากแฟนบอลที่มีอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการยกเลิกไปเรียบร้อยแต่จากพรีเมียร์ลีกยังไม่จบกับเรื่องนี้โดยเตรียมคุยกับทั้ง 6 สโมสรถึงบทลงโทษที่จะตามมา

รายงานเพิ่มเติมว่า บิ๊กซิกซ์ อาจจะโดนริบเงินส่วนหนึ่งของรายได้ในฤดูกาลหน้าซึ่งดูมีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะโดนตัดคะแนนที่คงมีการประท้วงและเรื่องราวก็จะยืดยาวออกไปอีก

ปัจจุบันทาง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ยังคงมุ่งมั่นกับโครงการซูเปอร์ลีก โดย ฟลอเรนติโน่ เปเรซ อ้างเมื่อเดือนที่แล้วว่าสโมสรที่ลงนามแล้วไม่สามารถถอนตัวออกไปได้

พอล เมอร์สัน อดีตกองกลางของ อาร์เซน่อล มองว่าทั้ง เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ คู่ควรกับการติดอยู่ในท็อปโฟร์มากกว่า ลิเวอร์พูล

เกมสุดท้ายของฤดูกาลยังมีความสำคัญในการแย่งชิงพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่มี 3 ทีมเบียดกันอยู่ โดยสถานการณ์ของ สุนัขจิ้งจอก เป็นรองอีกสองทีมเนื่องจากต้องชนะแล้วหวังได้ทีมใดทีมหนึ่งพลาดเพื่อที่จะแซงขึ้นไปอยู่ในท็อปโฟร์ของตาราง

ตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาทาง เลสเตอร์ อยู่ใน 4 อันดับแรกของตารางถึง 68 จาก 71 สัปดาห์ แต่ส่อแววชวดตั๋วอีกครั้ง ซึ่งในมุมมองของ เมอร์สัน ชี้ว่าทาง เลสเตอร์ รวมถึง เชลซี คู่ควรกับตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีกปีนี้มากกว่า ลิเวอร์พูล

เชลซี และ เลสเตอร์ คู่ควรจบในอันดับท็อปโฟร์ในความเห็นของผม ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล เมอร์สัน เขียนผ่านทางคอลัมน์ใน เดอะ สตาร์

หงษ์ซื้อแข้งใหม่มาเสริม

และผมยังคิดว่าอาจจะมีการพลิกผันครั้งใหญ่ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลเพราะผมไม่คิดว่าทั้งสามทีมจะคว้าชัยชนะได้ทั้งหมด

ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ พวกเขาพลิกสถานการณ์กลับมาในช่วงเวลาที่ถูกต้อง แต่พวกเขาไม่ควรอยู่ในการแข่งขันด้วยซ้ำ

เชลซี และ เลสเตอร์ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม, ถ้า เลสเตอร์ พลาดหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มันคงเป็นความผิดหวังอย่างใหญ่หลวง

แต่อย่างน้อยนักเตะของพวกเขาก็สามารถมองย้อนกลับไปแล้วบอกลูก-หลานว่าพวกเขาได้แชมป์เอฟเอ คัพเจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงทีม ลิเวอร์พูล ในเกมสำคัญรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ นัดสุดท้ายของฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ที่ชิงตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก

คล็อปป์ ไม่มีการปรับทัพตัวจริงจากเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-0 เมื่อกลางสัปดาห์ สามประสานแดนหน้ายังคงเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ โดยปลอกแขนกัปตันทีมอยู่กับ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม กองกลางที่กำลังจะหมดสัญญากับทีม

ข่าวดีที่ข้างสนามมีชื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมตัวจริง ฟิตสมบูรณ์มีชื่อเป็นตัวสำรองแล้ว หลังจากพักยาวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

ด้าน คริสตัล พาเลซ ของกุนซือเฒ่า รอย ฮ็อดจ์สัน ที่คุมทีมเป็นเกมสุดท้าย ปรับเปลี่ยนทีมสองตำแหน่งจากเกมก่อนที่แพ้คาบ้านต่อ อาร์เซน่อล 1-3 ไฮโร รีเดวาลด์ กับ จอร์แดน อายิว ลงแทน เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ กับ คริสติย็อง เบนเตเก้

โอซาน คาบัค เซนเตอร์แบ็กตัวเช่า-ยืมจาก ชาลเก้ 04 อาจแค่มาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ชั่วคราวไม่ได้ค้างคืนตลอดไป เมื่อผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ เปรยว่ายังรอการตัดสินใจขั้นสุดท้ายร่วมกับผอ.กีฬา หลังปิดซีซั่น 2020-21

คาบัค มาแบบขัดตาทัพอย่างแท้จริงเมื่อตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาพร้อมๆกับ เบน เดวิส โดยรายหลังยังไม่เคยสัมผัสเกมแม้แต่นาทีเดียว 

ซึ่งการที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป จะหายเจ็บกลับมาช่วงปรี-ซีซั่น รวมถึงการก้าวขึ้นมาของสองผู้เล่นหนุ่ม เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ กับ รีส วิลเลี่ยมส์ ทำให้ หงส์แดง จะมีตัวเลือกเซนเตอร์แบ็ก 5 คนแบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแม้แต่ปอนด์เดียว 

จึงมีความเป็นไปได้สูงที่กองหลังเติร์กต้องซมซานกลับ ราชันสีน้ำเงิน มากกว่าการที่ หงส์แดง ใช้ออปชั่น 18 ล้านปอนด์ซื้อขาด 

โอซาน น่าเหลือเชื่อมาก เขาทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและต้องไม่ลืมว่าเขายังเด็กอยู่ คล็อปป์ กล่าวถึงกองหลังวัย 21 ปีในงานแถลงความพร้อมก่อนพบ คริสตัล พาเลซ ผลบอลสด 7M / ดูแลอย่างดี