สื่อตีมิลานจับ สกาย อิตาเลีย สื่อดังแดนมะกะโรนี ตีข่าว เอซี มิลาน ตกลงใจจับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แนวรุกจอมเก๋าชาวสวีเดนขยายสัญญาใหม่อีก 1 ปี พร้อมค่าเหนื่อยตก 7 ล้านยูโร

สื่อตีมิลานจับ รายงานระบุว่า ศูนย์หน้าวัย 39 ได้ตกลงข้อตกลงใหม่อีก 1 ปีกับ มิลาน เป็นระเบียบเรียบร้อยถึงปี 2022 อันจะมีผลให้เขาจะได้เล่นให้ “ปีศาจร้ายแดง-ดำ” ต่อในฤดูกาลหน้าข้างหลังของเดิมกำลังจะหมดลงในอีกสองเดือนด้านหน้า

โดยหอกกลุ่มชาติประเทศสวีเดน ทำผลงานอย่างดีเยี่ยมนับจากย้ายกลับสู่ถิ่น ซาน สิโร่ อีกครั้งเมื่อกึ่งกลางฤดูที่แล้ว ทำไป 25 ประตูจากการลงไปในสนาม 34 นัดหมายใน เซเรีย อา ผลบอลสด 7M

ดังนี้ อิบราฮิโมวิช ที่จะเป่าเค้กฉลองวันเกิดอายุครบ 40 ปีในต.ค.นี้ ถือเป็นคีย์แมนของกุนซือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ความคาดหวังนำ “ภูติผีแดง-ดำ” กลับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014 โดยเดี๋ยวนี้พวกเขารั้งชั้น 2 บนตาราง เซเรีย อา

อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น บอกเอง เคยคิดที่จะเอา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาอยู่กับกลุ่มเช่นเดียวกัน แม้กระนั้นก็เลิกความนึกคิดไปเพราะเหตุว่าตัวรุกชาวสวีดิชขอค่าตอบแทนสูงจัด

อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น มิวนิค สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่เวที บุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดเผยว่ากลุ่มของตนเองเคยสนใจที่จะคว้าตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอก เอซี มิลาน มาร่วมทัพ

อิบราฮิโมวิช ถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้เล่นให้กับหลายทีมดังในทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วก็ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แม้กระนั้นเขากลับยังไม่เคยได้เล่นในศึก บุนเดสลีกา เลย

“เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ว่าค่าเหนื่อยที่เขาเรียกร้องมันสูงเหลือเกิน คราวหนึ่งพวกเราเคยพึงพอใจที่จะเซ็นสัญญากับเขา แม้กระนั้นในที่สุดพวกเราก็ล้มแผนไปโดยที่ไม่เคยเดินเรื่องแบบเอาจริงเอาจังด้วย” เฮอเนส กำหนด

การกลับมาของ อิบราฮิโมวิช ทำให้แฟนบอล สวีเดน คนไม่ใช่น้อยดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่านี่เป็นผู้ครอบครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดนิรันดรของประเทศ ภายหลังที่เขายิงไปถึง 62 ประตู แถมช่วงนี้เขากำลังทำผลงานได้สะดุดตากับ ไม่ลาน ด้วย จนกระทั่งทำให้ผู้คนจำนวนมากมั่นใจว่าเขาจะช่วย สวีเดน ได้อย่างดีเยี่ยม อย่างโหดลูกากู

ดังนี้ เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาสู่เวทีระดับกลุ่มชาติของ อิบราฮิโมวิช วันนี้พวกเราเลยมีเกร็ดบางสิ่งเกี่ยวกับการเล่นให้กลุ่มชาติของเขามานำเสนอ ทดลองไปดูดีมากกว่าว่ามีอะไรบ้าง

ตลอดตอนการเล่นให้ สวีเดน ก่อนหน้าที่ผ่านมานั้น มีอยู่ 2 นัดหมายที่ อิบราฮิโมวิช สามารถทำแฮตทริกได้ โน่นเป็นเกม ยูโร 2012 รอบคัดนัดหมายที่ ประเทศสวีเดน ชนะ ประเทศฟินแลนด์ 5-0 ช่วงวันที่ 7 เดือนมิถุนายน ปี 2011 แล้วก็เกมฝึกซ้อมที่ชนะ ประเทศนอร์เวย์ 4-2

อย่างไรก็ดี 2 เกมนั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับวันที่เขาพบ มอลต้า ในเกม บอลโลก 2006 รอบคัดเลือก ช่วงวันที่ 4 ก.ย. ปี 2004 กับเกมเตรียมพร้อมกับ อังกฤษ ตอนวันที่ 14 เดือนพฤศจิกายน ปี 2012

เพราะว่าใน 2 เกมนั้นเขาทำผู้เดียวถึง 4 ประตู โดยเกมกับ มอลต้า เขาช่วยทำให้กลุ่มชนะแบบถล่มทลาย 7-0 ส่วนวันที่พบกับ อังกฤษ มันพิเศษกว่านั้น เนื่องจากเขาทำผู้เดียว 4 ลูกจนกระทั่งทำให้ สวีเดน ชนะไป 4-2

วันที่ 8 ก.ย. ปี 2015 จนกระทั่งวันที่ 17 เดือนพฤศจิกายน ของปีเดียวกัน เป็นตอนๆที่ อิบราฮิโมวิช ทำแต้มในเกมกลุ่มชาติได้ต่อเนื่องกันสูงที่สุดในชีวิตการค้าแข้ง จากวิธีการทำไป 5 ครั้งติดต่อกัน และก็ถ้าเกิดนับเป็นปริมาณประตูก็อยู่ที่ 6 ลูก

ดังนี้ 5 เกมดังกล่าวเป็นศึก ยูโร 2016 รอบเลือกทั้งสิ้น แบ่งเป็น 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่มที่เขาทำเป็น 1 ลูกแม้กระนั้นแพ้ ออสเตรีย 1-4, ทำไป 1 ประตูในนัดที่ชนะ ลิคโก้เก๋นสไตน์ 2-0 รวมทั้ง 1 ลูกในวันที่ชนะ มอลโดว่า 2-0 กับอีก 2 นัดหมายในรอบเพลย์ออฟที่พบกับ เดนมาร์ก โดยในครั้งแรกเขาทำเป็น 1 ประตูจนถึงทำให้ ประเทศสวีเดน ชนะ 2-1 ส่วนนัดหมายที่ 2 เขาเหมา 2 ลูกจนกระทั่งทำให้เท่ากัน 2-2

20 ใบ เป็นปริมาณใบเหลืองทั้งหมดทั้งปวงที่ อิบราฮิโมวิช ได้รับในชื่อกลุ่มชาติ อย่างไรก็ดี มันไม่เคยมีนัดไหนเลยที่เขาโดนใบเหลือง 2 ใบในเกมเดียว แถมเขาก็ไม่เคยได้รับใบแดงเวลารับใช้รกรากเลยด้วย

หากว่าเวลานี้ อิบราฮิโมวิช จะเป็นดาวซัลโวสูงสุดชั่วนิจนิรันดร์ของ ประเทศสวีเดน ที่ปริมาณ 62 ประตูจาก 116 นัดหมาย แม้กระนั้นหากเปรียบเทียบแบบค่าเฉลี่ยปริมาณประตูต่อ 1 นัดหมายแล้วนั้นเขายังด้อยกว่าสมัยก่อนรุ่นพี่ในกลุ่มชาติอีกหลายท่าน

เนื่องจากค่าถัวเฉลี่ยของเขาอยู่ที่ 0.53 ลูกต่อเกม โดยถ้าหากเทียบเคียงเฉพาะคนในกรุ๊ปดาวซัลโว 10 ขั้นแรกของ ประเทศสวีเดน แล้วล่ะก็ เขาก็มีค่าเฉลี่ยสูงเป็นชั้นที่ 5 ส่วนที่ 1เป็นกุนทุ่งนาร์ นอร์ดาห์ล ที่ทำไป 1.3 ประตูต่อนัดหมาย ภายหลังเคยยิงไป 43 ประตูจากการลงเล่น 33 เกม ในระหว่างปี 1942-1948

เขาว่ากันว่าหนึ่งในสิ่งที่จะตัดสินว่าคนเราเป็นนักเตะชั้นยอดหรือเปล่าเป็นการที่ว่าจะต้องทำผลงานในเกมใหญ่ๆให้ดีด้วย เพราะดีกรีความเข้มข้นของเกมทั่วๆไปกับเกมใหญ่มันต่างกันพอตัว ซึ่งในระดับสมาคมนั้น อิบราฮิโมวิช ก็ชอบทำผลงานในเกมใหญ่ๆได้ดี