มีฟานไดค์ ชื่อของ โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งจาก ชาลเก้ โผล่เข้ามามาเป็นจุดหมายรายใหม่ของหงส์แดง

มีฟานไดค์ สำหรับการดึงมาเสริมแข็งแนวรับในตอนซัมเมอร์นี้ โดยมีกล่าวว่า “ราชันสีน้ำเงิน” บางทีอาจจะยอมขายหากได้ราคาราว 25 ล้านยูโร ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ได้สูงเหลือเกินนักสืบนื่องจากกลุ่มของผู้จัดการทีมฟุตบอล เจอรเก้น คล็อปป์

จัดแจงปล่อยตัวปล่อยใจ เดยัน ลอฟเรน แนวรับประสบการณ์สูงให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จนถึงทำให้ตัวเลือกในตำแหน่งนี้ลดลง โดยจะเหลือ โฌแอล มาติป และก็ โจ โกเมซ เพียงแค่นั้น โน่นก็เลยเป็นเหตผลที่ทำให้ “ลิเวอร์พูล” อยากหาในตำแหน่งนี้เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งคน ผลบอลสด 7M

พวกเราจะพาไปทำความรู้จัก กันให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าเพราะเหตุใด หงส์แดง ก็เลยอยากได้ตัวมาร่วมทีม คาบัค วัย 20 ปี เริ่มเส้นทางการค้าแข้งด้วยการร่วมกลุ่มชุดเยาวชนของ กาลาตาซาราย ด้วยวัย 11 ปี ในปี 2011 ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ในอีก 6 ปีถัดมา

ผลบอลสด 7M

โดยในช่วงฤดูกาล 2018/19 นับว่าเป็นปีที่เขาได้โอกาสลงเล่นเพิ่มมากขึ้นจากสถิติ 17 เกมทุกรายการ

ซึ่งโน่นก็รวมทั้งเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เขาได้ลงมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกด้วย หลังโชว์ฟอร์มน่าประทับใจทำให้เขาถูก สตุ๊ตการ์ท ที่ในตอนนั้นยังโลดแล่นอยู่บนบุนเดสลีกา เยอรมัน คว้าตัวเขาไปร่วมกลุ่มในตอนตลาดฤดูหนาวปี 2019

ซึ่งนั่นทำให้เขาแปลงเป็นแข้งที่ทำสถิติอายุน้อยสุดที่ลงเล่นในลีกสูงสุดเมืองเบียร์ร่วมกับ เจดอน ซานโช่ กองกลางของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และก็ทำผลงานได้น่าประทับใจจากผลงานลงเล่น 17 นัดหมายทำได 3 ประตูทุกรายการคาบัค จบฤดูกาลด้วยสถิติที่สุดยอด

มีฟานไดค์ โดยมีอัตราแย่งลูกในอากาศเสร็จ 64% รวมแย่งบอลสำเร็จ 60% ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่สุดยอด รวมทั้งยังมีอัตราการผ่านบอลเสร็จที่ 84% อีกด้วย แล้วก็ทำให้เขาซิวหน้าแข้งดาวรุ่งดีเลิศที่บุนเดสลีกาฤดูกาล 2018/19 ไปครอบครอง

“โอซานเป็นแผงหลังอายุน้อยที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในยุโรปรวมทั้งจะเป็นหมากตัวสำคัญของพวกเราในอนาคต” ไม่ชาเอล เรชเค่อ สปอร์ตติ้ง ไดเร็คเตอร์ของกลุ่มกล่าวไว้หลังเซ็นสัญญาคว้าตัว มาจาก กาลาตาซาราย ในตอนที่ โทมัส ฮิตเซลส์แพร์เกอร์ สปอร์ตติ้ง ไดเร็ตเตอร์กลุ่มม้าขาวและก็ อดีตหน้าแข้ง กลุ่มชาติเยอรมัน อาจจะไม่ได้อยู่ต่อ

เคยให้คำอธิบายศัพท์เจ้าหนูรายนี้ไว้ว่า “มันน่าทึ่งมากมายที่เด็กวัยหนุ่มอายุน้อยจะเฉลี่ยวฉลาดมีความรู้ได้ขนาดนี้ ยอดเยี่ยมจริงๆผมมองเห็นเขาวันแล้ววันเล่าแล้วก็สนเท่ห์ใจในความเป็นผู้ใหญ่ของเขา” ถึงแม้ปีดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเขาจะไม่สามารถที่จะพาทีมรอดตกชั้นได้ แม้กระนั้นความยอดเยี่ยมของเขาก็ทำให้ได้ลงเล่นบนลีกสูงสุดถัดไป

มีฟานไดค์ ภายหลังจาก ชาลเก้ จัดแจงเซ็นสัญญาดึงตัวไปร่วมกลุ่มในช่วงฤดูกาลต่อมาด้วยค่าจ้าง 15 ล้านยูโร และก็เปลี่ยนมาเป็นอย่างยิ่งสำคัญให้ “ราชันสีน้ำเงิน” ได้ในทันที โดยลงเล่นไป 28 นัดหมายแล้วก็ทำเป็นอีก 3 ประตู ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาเป็นกองหลังที่ขึ้นมาทำแต้มได้ดีอีกคนหนึ่งในยุโรป ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความดุเดือด มีอีกทั้งความแข็งแกร่ง เร็วทันใจ

รวมทั้งเล่นลูกในอากาศได้ดี ทำให้เขาถูกสื่อต่างแดนนำไปเปรียบเทียบกับ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังจาก เรอัล มาดริด นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นนักฟุตบอล ที่มีความเก่งกล้า ฝ่ากล้าแลกเปลี่ยน ชนไม่ถอยจนกระทั่งกับเคยจมูกหัก

ขายหน้ามาแล้วในเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้นกับยูเนียน เบอร์ลิน “วัตถุประสงค์ส่วนตัวของผมเป็นการได้เป็นกองข้างหลังชั้นยอดเยี่ยมในอีก 2-3 ปีด้านหน้า เหมือนกันกับ เฟอร์จิล ฟานไดค์ เพราะผมรู้สึกถูกใจสไตล์รวมทั้งกระบวนการเล่นของเขาด้วย

เหตุดังกล่าวผมก็เลยกล่าวได้เต็มปากว่าเขาเป็นไอดอลสำหรับเพื่อการเล่นบอลของผม” เคยให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บของบุนเดสลีกา แน่ๆเนื่องจากว่ามี ฟานไดค์ เป็นไอดอล ทำให้ถ้า “ลิเวอร์พูล” จับตัวได้เขาเข้ามา บางทีอาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดสำหรับในการเข้ามาจับคู่เป็นพาร์ทเนอร์ ใหม่กับแนวรับกลุ่มชาติฮอลแลนด์

มีฟานไดค์ ติดกลุ่มชาติตุรกี มาแล้วดูเหมือนจะทุกชุดไล่ตั้งแต่ ยู-15, ยู-16, ยู-17, ยู-18 แล้วก็ถูกเรียกตัวติดกลุ่มชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2019 โดยได้ลงเล่นไปแล้ว 2 นัดหมาย ซึ่งคาดว่าถ้าหากยังรักษาฟอร์มได้ อย่างสม่ำเสมอจะแปลงเป็นตัวหลักของทีม “ไก่งวง” ได้อย่างแน่แท้

เมื่อโอซาน คาบัคถูกถามคำถามว่าเขาเชิดชูนักฟุตบอลคนใดกันแน่สูงที่สุด คำตอบก็คือ “เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และก็ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ คือผู้ที่ผมประทับใจ”  คนแรกก็คือเซ็นเตอร์แบ็คจาก “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง ดีกรีแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกปีปัจจุบัน

มีฟานไดค์ ส่วนอีกคนเป็นแนวรับเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มสตุ๊ตการ์ทของคาบัคที่พกดีกรีแรงระดับแชมป์โลกครั้งปัจจุบัน ซึ่งได้โบกมือลารั้ว “ม้าขาว” มาร่วมกลุ่มพี่เสือ บาเยิร์น มิวนิค เป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย เจ้าหนูคาบัคก้าวขึ้นมาสู่สังเวียนบุนเดสลีกาด้วยความแน่ใจเต็มเปี่ยมในชุดกลุ่มม้าขาว

โดยที่การเล่นคู่กับปาวาร์นั้นไม่ได้ง่ายเลย ด้วยเหตุว่าแข้งดินแดนน้ำหอมคนนี้มีประสบการณ์ในเกมระดับสูงมาอย่างโชกโชนตั้งแต่แมื่อย้ายจากลีลล์มายังรั้วเมอร์เซเดส เบนซ์ อารีน่าเมื่อปี 2016 ซึ่งในเวลานั้นสตุ๊ตการ์ทยังเล่นอยู่ในบุนเดสลีกา 2

ถึงแม้ปัจจุบันคาบัคจะต้องกลับลงไปเล่นในลีก 2 ด้วยเหตุว่าเสียท่าในเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้น แม้กระนั้นเขาก็แสดงฝีเท้าให้มองเห็นแล้วว่ามีดีเท่าไรด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี “โอซานเป็นกองหลังอายุน้อยที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในยุโรป

และก็จะเป็นหมากตัวสำคัญของพวกเราในอนาคต” มิชาเอล เรชเค่อ สปอร์ตติ้ง ไดเร็คเตอร์ของทีมกล่าวไว้หลังเซ็นสัญญาคว้าตัวคาบัคมาจากาลาตาซารายเมื่อมกราคมก่อนหน้านี้ด้วยข้อตกลงห้าปีครึ่ง คาบัคร่วมกลุ่มยักษ์ใหญ่ที่ประเทศตุรกีตั้งแต่อายุได้ 11 ปี

และก็ฉายแววรุ่งจนได้ช่องทางจากผู้จัดการทีมฟุตบอลฟาติห์ เทริมให้ลงเล่นในศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกรอบลึกๆ เมื่อมกราคมก่อนหน้านี้ คาบัคได้ลงเปิดฉากสนามในบุนเดสลีกาพบบาเยิร์น มิวนิค แม้ว่าจะบุกไปพ่ายแพ้ให้กับกลุ่มเสือใต้ไป 4-1 ประตู

แม้กระนั้นโน่นเป็นความภาคภูมิของเขา เป็นความเสร็จอีกก้าวหนึ่ง โดยเขาได้ส่งเสื้อที่ใส่ลงเล่นในวันนั้นไปให้กับเทริม หัวหน้าเก่าอีกด้วย คาบัคจบฤดูปัจจุบันด้วยสถิติที่น่าพึงพอใจ เขามีอัตราแย่งลูกในอากาศเสร็จ 64% รวมแย่งบอลเสร็จ 60% ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่สุดยอด

รวมทั้งยังมีอัตราการผ่านบอลเสร็จที่ 84% อีกด้วย ถ้าเกิดเทียบกับมัทส์ ฮุมเมิลส์ ปราการตัวแกร่งของบาเยิร์นแล้วนับว่าใกล้เคียงทีเดียวในขณะที่ฮุมเมิลส์มีดีกรีแชมป์โลกปี 2014 รวมทั้งอายุมากกว่าถึง 11 ปี ก็เลยน่าเชื่อว่าแข้งดาวรุ่งตุรกีคนนี้จะปรับปรุงฝีเท้าไปเทียบชั้นฮุมเมิลส์ได้แน่ๆ

หนึ่งสถิติที่คาบัคข่มแนวรับคนอื่นในลีกได้ก็คือปริมาณประตูที่ยิงได้ในช่วงฤดูกาลปัจจุบัน เขาทำไปแล้ว 3 ประตูจากการลงในสนามในเกมลีก 15 นัดหมายแค่นั้น มีแผงหลังเพียงแต่ 2 ผู้ที่ทำเป็นมากยิ่งกว่านี้เป็น วิลลี่ ออร์บาน จากไลป์ซิก รวมทั้ง คาน อายฮาน จากดุสเซลดอร์ฟ

แม้กระนั้นทั้งคู่คนสบโอกาสลงเล่นมากยิ่งกว่าเขาหลายนัดหมาย ไฮไลท์ของคาบัคก็คือการเหมาสองประตูพาทีมเอาชนะฮันโนเวอร์ 5-1 ประตู ทำให้เขาล้มสถิติของฮาคาน ชัลฮาโนกลู ในฐานะที่เป็นนักฟุตบอลประเทศตุรกีที่อายุน้อยที่สุด

ที่ยิงเบิ้ลได้ในเกมบุนเดสลีกาซึ่งในประวัติศาสตร์ของกลุ่มสตุ๊ตการ์ทมีนักฟุตบอลเพียงแค่ 2 ผู้ที่ยิงเบิ้ลได้ด้วยอายุน้อยกว่าคาบัค อาทิเช่นทิโม แวร์เนอร์ และ ฮอร์ส เคิพเพิล “มันน่าทึ่งมากมายที่เด็กหนุ่มอายุน้อยจะเฉลี่ยวฉลาดมีความรู้ได้ขนาดนี้

ยอดเยี่ยมจริงๆผมมองเห็นเขาทุกวี่วันและก็ฉงนใจในความเป็นผู้ใหญ่ของเขา” โทมัส ฮิตเซลส์แพร์เกอร์ สปอร์ตติ้ง ไดเร็ตเตอร์กลุ่มม้าขาวแล้วก็สมัยก่อนหน้าแข้งกลุ่มชาติเยอรมนีกล่าว “เขาต้องการจะทราบทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องการจะเรียนภาษาเยอรมันโดยทันทีเพื่อจะรู้เรื่องทุกๆอย่างให้ได้

นี่แหละเป็นทัศนคติของนักฟุตบอลที่พวกเราปรารถนา แม้ว่าจะอายุยังน้อย แม้กระนั้นเขาเปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลที่น่าทำตามไปแล้ว” ยิ่งกว่านั้นคาบัคยังเป็นนักฟุตบอลที่มีความองอาจฝ่ากล้าแลกเปลี่ยน ชนไม่ถอยจนกระทั่งกับจมูกหัก

ขายหน้ามาแล้วในเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้นกับยูเนียน เบอร์ลิน และก็เนื่องจากว่าเขาแปลงเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์เหมือนกับหน้าแข้งดาวรุ่งอย่างจาดอน ซานโช แต่ว่าคาบัคก็ยังคงมุ่งมั่นเล่นให้กับสังกัดเดิมถัดไปรวมทั้งยังมิได้นึกถึงอนาคตที่บางทีอาจถูกสมาพันธ์ใหญ่ๆมารุมจีบ“ผมมีเป้าหมายใหญ่ที่ต้องการจะทำให้เสร็จร่วมกับสตุ๊ตการ์ทในระยะยาว”

นี่เป็นคำพูดของคาบัคในช่วงเวลาที่เซ็นสัญญากับกลุ่มแชมป์บุนเดสลีกา 3 ยุค รวมทั้งแฟนบอลต่างก็หวังจะมองเห็นนักฟุตบอลดาวรุ่งคนนี้นำกลุ่มรักกลับขึ้นมายิ่งใหญ่ให้เสร็จอีกทีอย่างไรก็ดี เจ้าหนู “โอซาน คาบัค” ก็จัดเตรียมรับประสบการณ์ใหม่อีกรอบ ข้างหลัง ชาลเก้ ดึงตัวเขามาจาก สตุ๊ตการ์ท ร่วมกองทัพเมื่อตอนวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ โดยทางของเขาจะสดใสราวกับสมัยอยู่กับ “ม้าขาว” ไหม เกิดเรื่องที่พวกเราจำเป็นจะต้องติดตามกันถัดไป