ปัจจัยชี้วัดนักเตะ แต่มันก็ไม่ถือว่าคุณเฉียบคมมากนักหากต้องยิงถึง 80 ครั้ง

ปัจจัยชี้วัดนักเตะ ทั้งนี้ ล่าสุด สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของ เกาะอังกฤษก็ได้ นำเสนอสถิติที่ว่า
ในฤดูกาลนี้นั้น นักเตะคนไหนในพรีเมียร์ลีก ที่มีเปอร์เซ็นต์การ เปลี่ยนลูกยิง ให้เป็นประตูดีที่สุด หาก
ไม่นับ รวมลูกจุดโทษ และหากนับเฉพาะ คนที่ทำได้อย่างน้อย 6 ลูกขึ้นไป

โดย 5 อันดับแรกก็เป็น นักเตะในกลุ่มทีม ใหญ่กันเกือบทุกคนด้วย ลองไปดูดีกว่าว่า มีใครบ้างบางครั้ง
สิ่งที่จะใช้ เป็นปัจจัยชี้วัดว่า นักเตะคนนั้นมีความ เฉียบคมในการจบ สกอร์มากแค่ไหน มันไม่ใช่จำนวน
ประตู แต่เป็นอัตราการ เปลี่ยนลูกยิง ให้เป็นประตูได้

ยกตัวอย่างเช่น ถึงแม้คุณจะทำได้ 15 ประตู แต่มันก็ไม่ถือว่า คุณเฉียบคมมาก นักหากต้องยิงถึง 80
ครั้งกว่าที่ จะยิงได้ถึง หลักดังกล่าว

อันดับ 1 : แกเร็ธ เบล (สเปอร์ส) แม้ว่าจนถึงตอนนี้ เบล จะทำประตูในลีกได้เท่ากับ คาวานี่ แต่
เขายิงไป 9 ลูกจากการมี จังหวะทำประตูน้อยกว่า ส่งผลให้เขาเป็นอันดับ 1 ในชาร์ตนี้ จากการที่มี
เปอร์เซ็นต์การ เปลี่ยนลูกยิง ให้เป็นประตูได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

อันดับ 2 : เอดินสัน คาวานี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด) ในตอนแรกหลายคนมองว่า คาวานี่ เป็นเพียงการ
เสริมทัพแบบฉุกเฉินของ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้น หลังจากตอนนั้น ทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์
โซลชา ไม่สามารถหาหัวหอก ตัวเป้าชื่อดังมาร่วมทัพได้

แต่จนถึงตอนนี้ ดาวเตะชาวอุรุกวัย ก็ลบคำดูถูกนั้นได้ จากการทำประตูใน ลีกได้แล้ว 9 ลูก แถมยัง
ไม่มีลูกไหนที่มา จากลูกจุดโทษเลย ที่มันน่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือ คาวานี่ ยิงได้เยอะแบบ นั้นทั้งที่จริงๆ
แล้วเขาได้ลงเล่น เป็นตัวจริงในลีกเพียงแค่ 11 นัดเท่านั้น

หรือพูดอีกแบบก็คือเขายิงได้ 9 ลูกทั้งที่ไม่มีโอกาส ง้างเท้าทำประตูมากเท่าไหร่ ซึ่งนั่นก็ทำให้เปอร์
เซ็นต์การเปลี่ยน ลูกยิงให้เป็น ประตูของเขาอยู่ที่ 29 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

อันดับ 3 : ซน ฮึง-มิน (สเปอร์ส) เป็นอีก 1 ฤดูกาลที่ดาวเตะชาวเกา หลีใต้โชว์ฟอร์มได้อย่าง
ยอดเยี่ยม โดยเขาทำประตูในลีกได้ถึง 17 ลูก ซึ่งในจำนวนนั้นมาจาก ลูกจุดโทษเพียง แค่ประตู
เดียวเท่านั้น

โดยเขาถึงขั้นเคยยิงได้ 4 ลูกในเกมที่ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-2

เมื่อช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมาด้วยทั้งนี้ หากไม่นับรวมลูก จุดโทษแล้วล่ะก็ ซน ก็มีเปอร์เซ็นต์
การเปลี่ยนลูก ยิงให้เป็นประตู ได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน ปัจจัยชี้วัดนักเตะ

อันดับ 4 : เจสซี่ ลินการ์ด (เอฟเวอร์ตัน) กับ อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ (อาร์เซน่อล) นับตั้งแต่
ที่ย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว ลินการ์ด ก็กลายเป็นกำลังสำคัญของ
เวสต์แฮม ได้อย่างทันที เขาสามารถทำ ประตูให้กับทีมได้ถึง 8 ลูก ปัจจัยชี้วัดนักเตะ

หากไม่นับ รวมลูกจุดโทษ จนทำให้ตอนนี้เปอร์ เซ็นต์การเปลี่ยนลูกยิง ให้เป็นประตูของ เขาอยู่ที่
24 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ตัวเลขดังกล่าวอยู่ ในระดับเดียวกับ ลากาแซ็ตต์ หลังจากจนถึงตอนนี้
หัวหอกชาวฝรั่งเศส สามารถทำประตู ในลีกให้กับ อาร์เซน่อล ไปแล้ว 10 ประตู

ด้วยกันถ้าไม่ นับรวมการยิงเป้า ดังนั้นมันจึงไม่แปลก เลยที่ฤดูกาลนี้เขา จะเป็นตัวความหวังหลัก
ในการทำประตู ของทีมมากพอๆ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หรืออาจจะ ถึงขั้นมากกว่าไปแล้ว

อันดับ 5 : อิลคาย กุนโดกัน (แมนฯ ซิตี้) ถ้าจะบอกว่านี่เป็น ฤดูกาลที่ดาวเตะ ชาวเยอรมัน
เล่นได้ดีที่สุดใน อาชีพการค้าแข้ง ของเขาก็คงไม่ผิดนัก เพราะซีซั่นนี้เขาทำ ประตูในลีกได้ถึง 12
ลูกจากการลงเล่น 26 เกม ปัจจัยชี้วัดนักเตะ

ทั้งที่ตลอดช่วง อาชีพการค้าแข้ง ก่อนหน้านี้นั้นไม่มี ฤดูกาลไหนเลยที่ เขายิงในลีกได้ ถึงหลัก
10 ลูกทั้งนี้ หากตัดประตูจากลูก จุดโทษไปแล้วนั้น กุนโดกัน ก็มีเปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยนลูกยิง
ให้เป็นประตูได้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์

เรียกได้ว่าเขาใช้ โอกาสเปลืองน้อย กว่าบรรดากองหน้าชั้นนำหลายคนซะอีก และถือเป็นฟันเฟือง
สำคัญที่กำลังจะทำให้ แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ลีกในซีซั่นนี้ ดาวรุ่งชาวสเปน | ผลบอลสด 7M