ตัดเกรดนักเตะ เอฟเวอร์ตัน หลังเปิดบ้านเจ๊า หงส์แดง โดยต้องชูให้ ฮาเมส โรดริเกซ แล้วก็ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน สองแนวรุกที่ทำผลงานเด่นสุดๆ

ตัดเกรดนักเตะ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ยังคงทำผลงานเลิศพาทัพ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” นำเป็นจ่าฝูงของตาราง พรีเมียร์ลีก ถัดไป ข้างหลังเปิดรัง กูดิสัน พาร์ค เสมอ หงส์แดง คู่ปรับร่วมเมืองไปอย่างสุดมัน 2-2 ในเกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 เดือนตุลาคม ก่อนหน้านี้

เอฟเวอร์ตัน โชว์ผลงานสุดโหดเปิดรังถล่ม เวสต์บรอมวิช ที่มาเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยสกอร์ 5-2 โดยเกมนี้ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน กดแฮตทริก ส่วน ฮาเมส โรดริเกซ ยิง 1 จ่าย 1 ช่วยกลุ่มเก็บชัยสองนัดหมายรวดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายนก่อนหน้านี้ การแข่งขันชิงชัยบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกทุกวันเสาร์ที่ 19 เดือนกันยายน 2563 ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค เอฟเวอร์ตัน เจอ เวสต์บรอมวิช

เอฟเวอร์ตันของผู้จัดการทีม คาร์โล อันเชลอตติ ไม่มีปัญหาการจัดกองทัพส่ง 11 ตัวจริงชุดเดิมที่เอาชนะ สเปอร์ส ในครั้งแรก นำโดย ฮาเมส โรดริเกซ คอยทำเกมช่วยเหลือคู่หน้าอย่าง โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน รวมทั้ง ริชาร์ลิซอน ผลบอลสด 7M

ระหว่างที่ สลาเว่น บิลิช ผู้จัดการทีมฟุตบอลเวสต์บรอมวิช ส่งแกนหลักลงครบทั้งหมดทั้งปวงนำโดย มาเตอุส เปเรยร่า ทำเกมรุกร่วมกับ เจค ลิเวอร์มอร์, เกรดี้ เดียนกาน่า โดยวางหน้าเป้าเป็น คัลลั่ม โรบินสัน

ครึ่งแรกเปิดตัวมาทั้งคู่กลุ่มเปิดหน้าแลกหมัดกันในทันที ก่อนที่จะใน นาทีที่ 10 จะเป็น เวสต์บรอม ที่ได้ประตูกลับขึ้นนำก่อนจากจังหวะสวนกลับ เกรดี้ เดียนกาน่า ลากขึ้นมาจากดินแดนตนเองแต่ว่าไม่มีหน้าแข้ง เอฟเวอร์ตัน ตามเข้าสกัด ก่อนที่จะได้กดด้วยซ้ายหน้าจุดโทษโล่งๆจ่ายบอลทิ่มมุมตุงตาข่าย

แล้ว นาที 15 “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” หวิดได้ประตูตามตีเสมอเมื่อ โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน ได้บอลในจุดโทษก่อนพลิกกลับตัวยิงด้วยขวาบอลไปแฉลบแนวรับกลุ่มเยี่ยมหลุดกรอบไปนิดหนึ่ง

ถึงแม้กลุ่มเยี่ยม จะบุกน้อยกว่า แม้กระนั้นจังหวะ จบสกอร์ได้ น้ำได้เนื้อ มากยิ่งกว่า นาที 22 เกือบจะได้ประตูลำดับที่สองเมื่อ เจค ลิเวอร์มอร์ ได้กดเน้นๆด้วยขวาในจุดโทษบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ยังบุกใส่อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งแทบตามตีเสมออีกรอบจากจังหวะเตะมุมด้านซ้าย ลูก้าส์ ดีญ เปิดมาเข้าหัว ไมเคิล คีน ได้โหม่งแม้กระนั้นบอลเหินข้ามคาน ในนาที 29

จวบจนกระทั่งนาที 32 เอฟเวอร์ตัน ตามตีเสมอได้เสร็จ 1-1 จากจังหวะที่ ริชาร์ลิซอน กระแทกไปโดนหัวของ ดาร์เนลล์ เฟอร์ทดลอง กระเด้งมาเข้าทาง โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตอกส้นเข้าประตูไป โดยผู้ช่วยยกธงขาวเป็นจังหวะล้ำหน้า แม้กระนั้นผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์กลับคำพูดวินิจฉัยให้เป็นประตู

เท่าน้นไม่เพียงพอ นาที 45 ได้ประตูกลับขึ้นนำ 2-1 ริชาร์ลิซอน ลากมาแล้วจ่ายให้ ฮาเมส โรดริเกซ จับก่อนหนึ่งจังหวะแล้วกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบหน้าต่างเสาไกลอย่างเหนือชั้น

เหตุการณ์ของกลุ่มเยี่ยมตกอับลงไปอีกจำเป็นต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแต่ 10 คน ภายหลัง คีแรน กิ๊บบส์ ไปใช้มือตบหน้า ฮาเมส โรดริเกซ ก่อนที่จะผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออกจากสนามโดยทันที แถม สลาเว่น บิลิช ผู้จัดการทีมของกลุ่มก็โดนใบแดงด้วยเช่นเดียวกัน ข้างหลังโวยวายใส่ผู้ตัดสิน ตอนที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ เวสต์บรอมวิช 2-1 ดาร์บี้เดือด

ตัดเกรดนักเตะ ช่วงหลังเล่นมาได้เพียงแค่ 3 นาที เวสต์บรอม ที่ผู้เล่นน้อยกว่ามาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะฟรีคิก มาเตอุส เปเรยร่า ปั่นด้วยซ้ายระยะราวๆ 30 หลาบอลเข้าประตูไปอย่างสุดสวย จอร์แดน พิคฟอร์ด หมดสิทธิ์เซฟ

แม้กระนั้น นาที 54 เอฟเวอร์ตัน ได้ประตูขึ้นนำอีกรอบ 3-2 จากจังวะฟรีคิก ลูก้า ดีญ เปิดเข้าจุดโทษบอลมาถึง ริชาร์ลิซอน ซัดเหน่งๆจังหวะแรกโดน แซม จอห์นสตัน ปัดมาเข้าทางปืนของ ไมเคิ่ล คีน ตามซ้ำจ่อๆไม่พลาด

ตัดเกรดนักเตะ เท่านั้นยังไม่พอ นาที 62 สกอร์ไหลห่างเป็น 4-2 ริชาร์ลิซอน หลุดไปถึงสุดเส้นข้างหลังแล้วจ่ายมอบพานให้ คัลเวิร์ต เลวิน ตามมาซ้ำรำยำเผาขนไม่เหลือ

เจ้าถิ่นยังไม่มีผ่อนเครื่องได้ลูกที่ 5 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ ฮาเมส โรดริเกซ เปิดมาเข้าหัว คัลเวิร์ต เลวิน กระแทกเหน่งๆตุงตาข่าย พร้อมเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ ขณะที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม กระหน่ำ เวสต์บรอมวิชฯ 5-2 คว้าชัยสองนัดหมายรวดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว

ดังนี้ มันคือเรื่องปกติที่ช่วงแรกจะมีการสงสัยว่า ฮาเมส จะปรับตัวกับสไตล์บอลของที่อังกฤษได้รึเปล่า แม้กระนั้นในนัดหมายเปิดฉากสนามของเขานั้น หน้าแข้งวัย 29 ปีก็ทำผลงานได้เด่นกระทั่งช่วยทำให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” บุกไปชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ถึงสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 เดือนกันยายน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แล้วก็สถิติ พวกนี้เป็นสิ่ง ที่ช่วยการันตีถึงหัวข้อนั้นได้ดิบได้ดีในระดับหนึ่ง

ถึงแม้ว่าหน้าที่สำคัญๆของเจ้าตัวจะเป็นการช่วยปั้นเกมรุก แม้กระนั้นในเกมเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมา ก็ช่วยเกมยอมรับได้ดี พอใช้เช่นเดียวกัน เพราะเหตุว่าเขาสามารถตัดบอล โดยที่ไม่ ต้องพุ่งทิ่มได้ถึง 4 ครั้ง ซึ่งในนัดหมายนั้นมันไม่มีผู้ใดอีกแล้วที่ ตัดบอลได้ดี มากมายไปกว่าเขา

หนึ่งในคุณลักษณะเด่นของ ที่ทำให้เขาได้รับการชมเชยเป็นอย่างมากในตอนหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เป็นการที่เขาผ่านบอลได้อย่างดียิ่ง และก็ในเกมกับ สเปอร์ส เจ้าตัวก็ตอกย้ำซ้ำเติมในหัวข้อนั้นได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากเขามีจังหวะผ่านบอลระยะไกลตลอดทั้งเกม 12 ครั้ง แล้วก็มันก็ตรงเป้าถึง 11 ครั้งอย่างยิ่งจริงๆ

ผลงานดังกล่าวข้างต้นทำให้แสดงว่าในสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา มันไม่มีผู้ใดอีกแล้วที่ผ่านบอลระยะไกลได้แม่นมากยิ่งกว่าเขา โดยผู้ที่ใกล้เคียงกับเขาสูงที่สุดเป็น เอริค ดายเออร์ หน้าแข้งของ สเปอร์ส ที่ผ่านบอลระยะไกลเข้าเป้า 6 ทีจากการพยายามผ่านบอลทั้งสิ้น 10 ครั้ง

ตำแหน่งกองกลางตัวกลางแบบเขานั้นมันจะต้องไม่เสียบอลง่ายเกินความจำเป็น เพราะว่านอกเหนือจากจะอดขึ้นเกมรุกแล้วนั้นมันยังเสี่ยงทำให้โดนคู่ต่อสู้สวนกลับเร็วด้วย รวมทั้งเขาก็ทำในด้านนั้นก้าวหน้า ด้วยเหตุว่าเขาจับบอลพลาดจนกระทั่งทำให้บอลหลุดจากการมีไว้ในครอบครองไปเพียงแค่ 1 ครั้งตลอดทั้งเกม แล้วก็ยังโดนคู่ปรับฉกบอลไปจากเท้าเพียงแต่ 1 ครั้งด้วย

มีส่วนร่วมกับเกมการเล่นเป็นอย่างมาก โดยในเกมเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเขาได้สัมผัสกับบอลถึง 75 ครั้ง ซึ่งจัดว่าสูงเป็นชั้น 3 ของ ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ด้อยกว่าเพียงแต่ ลูก้าส์ ดีญ ที่ได้จับบอลไป 92 ครั้ง กับ ริชาร์ลิซอน ที่ได้สัมผัสบอล 80 คราว เพียงแค่นั้น

นอกเหนือจากนี้ หากนับเฉพาะในครึ่งแรกแล้วล่ะก็ ก็เป็นศูนย์กลางของกลุ่มจนกระทั่งขนาดที่เขาเป็นผู้เดียวของ ที่ได้รับบอลจากเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มทุกคนถ้าหากมองแค่นักเตะในตำแหน่งเอาท์ฟิลด์ หรือก็คือนักฟุตบอลในตำแหน่งอื่นๆนอกจากผู้เฝ้าประตู

ตลอดทั้งเกมเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา สร้างจังหวะทำแต้มได้ถึง 5 ครั้ง ซึ่งจากอีกทั้ง 2 กลุ่มนี้มันไม่มีผู้ใดอีกแล้วที่มีจังหวะสร้างจังหวะทำคะแนนได้มากกว่าเขา โดยชั้น 2หมายถึงอับดูลาย ดูกูเร่ ที่ทำไป 4 ครั้ง

ผลงานดังกล่าวข้างต้นทำให้ นับว่าเป็นนักฟุตบอลคนแรกของ พรีเมียร์ลีก นับจากส.ค. ปี 2014 ซึ่งสามารถสร้างช่องทางทำคะแนนตั้งแต่นัดหมายเปิดฉากสนามได้อย่างต่ำ 5 ครั้ง โดยคนในที่สุดก่อนหน้าเขาที่ทำแบบนั้นได้เป็น อเล็กซิส ซานเชซ ตัวรุกชาวประเทศชิลีที่ทำเป็นตอนอยู่กับ อาร์เซน่อล