ครองบัลลังก์จ้าวยุโรป ซึ่งจะฟาดแข้งกันที่สนาม อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ครองบัลลังก์จ้าวยุโรป ในที่สุด “ออล-อิงลิช ไฟนัล” ก็เกิดขึ้นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งหลัง
จากที่เชล ซีฝ่าด่านเรอัล มาดริด แชมป์ 13 สมัย เข้าไปชิงดำกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็น
คู่ชิงที่น่าดูอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพตัวผู้เล่น รวมถึงกุนซือ โดย “เรือใบสีฟ้า”

ลุ้นแชมป์ยุโรปสมัยแรก ส่วนทางฝั่ง “สิงห์บลูส์” ก็หวังเป็นแชมป์สมัยที่สอง และก่อนที่จะถึงเกมรอบชิง
ชนะเลิศ ซึ่งจะฟาดแข้งกันที่สนาม อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี วันเสาร์ที่
29 พฤษภาคม เราไปเช็คผลงานและเส้นทางของทั้งสโมสรกันเป็นการอุ่นเครื่องกันดีกว่า

– เชล ซี(ยูฟ่า แรงกิ้ง : 12) ต้องชื่นชมกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ที่เข้ามาช่วยยกระดับเชล ซีได้แบบทัน
ตาเห็น และตอนนี้ก็พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นประสบการณ์
รอบชิงฯ สองซีซั่นติดสำหรับเจ้าตัวด้วย

ครองบัลลังก์จ้าวยุโรป

(ฤดูกาลที่แล้วคุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1) โดยผลงานในถ้วย “บิ๊กเอียร์”
ของ “สิงห์บลูส์” ฤดูกาลนี้ พวกเขาผ่านจากรอบแบ่งกลุ่มได้แบบไม่ยากเย็น ส่วนในรอบน็อกเอาต์ ถึง
แม้เจอของแข็งๆ อย่าง แอตเลติโก มาดริด, ปอร์โต้ และ เรอัล มาดริด

แต่พวกเขาก็ผ่านมาได้หมด โดยเฉพาะ 4 เกมที่เจอกับสองยักษ์ใหญ่

แห่งกรุงมาดริดนั้น ชนะไปถึง 3 นัด และเสมอ 1 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ และด้วยผลงานแบบนี้
แน่นอนว่า แฟนๆเชล ซีคงคาดหวังไม่น้อย ที่จะเห็นทีมรักคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่สอง ต่อจากเมื่อ
ฤดูกาล 2011/12 ซึ่งมันก็ห่างมาถึง 9 ปีแล้ว และอย่าลืมว่า

ฤดูกาลนี้พวกเขายังมีลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ อีกรายการด้วย (เตะรอบชิงฯ กับ เลสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์ที่
15 พฤษภาคม)

– แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ยูฟ่า แรงกิ้ง : 3) “เรือใบสีฟ้า” ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอย่างยิ่งใหญ่ หลังปราบคู่แข่ง
ในรอบตัดเชือกอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แบบสวยหรู ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-1

ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะในรอบก่อนหน้านี้ เปแอสเช สามารถโค่น บาร์เซโลน่า รวม
ถึงแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค มาได้ และตลอดเส้นทาง 12 นัด จนถึงรอบชิงฯ ของ แมนฯ ซิตี้
นั้น ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ โดยมีเสมอแค่นัดเดียว นอกนั้นช นะรวดน่าสนใจเหลือเกินว่า

พวกเขาจะปิดซีซั่นนี้ด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้หรือไม่ เพราะ คาราบาว คัพ ได้มาแล้ว ขณะที่ พรี
เมียร์ลีก ก็จ่อการันตีแชมป์เต็มที ซึ่งถ้าหากกวาดแชมป์ทั้งสามรายการได้จริง ก็จะถือเป็นฤดูกาลที่สุด
ยอดมากๆ สำหรับ “เรือใบสีฟ้า”

ครองบัลลังก์จ้าวยุโรป

* ผลงานใน ชปล. ซีซั่นนี้ * สถิติ :ชนะ 11, เสมอ 1, แพ้ 0, ยิงได้ 25, เสีย 4
ดาวซัลโวสูงสุด : เฟร์ราน ตอร์เรส, ริยาด มาห์เรซ (4 ประตู)

รอบแบ่งกลุ่ม : แชมป์กลุ่ม ซี,ช นะปอร์โต้ 3-1 (เหย้า), ชนะโอลิมปิก มาร์กเซย 3-0 (เยือน),
ชนะ โอลิมเปียกอส 3-0 (เหย้า), ช นะโอลิมเปียกอส 1-0 (เยือน), เสมอ ปอร์โต้ 0-0 (เยือน),
ชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-0 (เหย้า)

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ช นะโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 4-0 (2-0 เยือน*, 2-0 เหย้า*)
รอบก่อนรองฯ : ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-2 (2-1 เหย้า, 2-1 เยือน)
รอบรองฯ : ชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 4-1 (2-1 เยือน, 2-0 เหย้า)
(ที่มีเครื่องหมาย * คือเตะสนามกลาง) เนรัซซูรี่| ผลบอลสด 7M