แลมพาร์ดเปิดใจ เปิดใจหลังมองเห็นผู้ร่วมทีมแย่งกันยิงจุดลูกโทษในเกม เชลซี ตี คริสตัล พาเลซ ชี้เป็นเรื่องดีที่นักฟุตบอลมีความกระตือรือร้น แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องมองหน้าที่ที่วางไว้ด้วย

แลมพาร์ดเปิดใจ กุนซือ เชลซี ยืนยันว่า การแย่งกัน ยิงจุดลูกโทษของ แทมมี่ อับราฮัม กับ จอร์จินโญ่ ในเกมเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม ก่อนหน้านี้ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร รวมทั้งจัดการ กันเป็นระเบียบ อีกทั้งในสนาม แล้วก็ห้องแต่งตัว

ในช่วงท้ายเกม เชลซี ได้จุดลูกโทษเพื่อขึ้นนำ 4-0 แล้วก็ จอร์จินโญ่ จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามธรรมดา แม้กระนั้น อับราฮัม กลับจะเข้าไปแย่งยิง ก่อนที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จำเป็นที่จะต้องเข้ามาห้าม และก็แย่งบอลคืนมา ทำให้หัวหอกดาวรุ่ง ออกอาการ หงุดหงิดไม่น้อย

แม้กระนั้น ภายหลังที่ จอร์จินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปนั้น อับราฮัม ก็เข้าไปแตะต้อง มือยินดีด้วย ทำให้ไม่มี ดราม่าอะไรตามมา ในช่วงเวลาที่แลมพาร์ด ก็ไม่มีปัญหากับประเด็นนี้ แถมคิดว่า เป็นเรื่องดีเสีย อีกที่นักฟุตบอล มีความขมักเขม้น ผลบอลสด 7M

แลมพาร์ดเปิดใจ

แลมพาร์ดเปิดเผยหลังจบเกมว่า “เรื่องนี้จัดการได้ มันไม่มี ปัญหาอะไร เพียงจัดแจง กับมันแค่นั้น ผมปรารถนานักฟุตบอล ที่มีความเป็นหัวหน้า แล้วก็ไม่ตรงกันกันบ้างบางส่วน มันเป็นการดีที่ แทมมี่ มีความกระตือรือร้น แต่ว่าคุณไม่ สามารถที่ จะผ่านวิธีการ ทำหน้าที่ที่วางเอาไว้แล้ว”

แน่ๆว่าสำหรับแฟนบอลของเชลซีแล้วก็อังกฤษ อาจจะระลึกถึงกองกลางหน้าหล่อคนนี้ไม่น้อย ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่หวือหวาแม้กระนั้นสามารถสร้างผลดีให้กับกลุ่มด้วยการพักจังหวะ จ่ายบอลให้เพื่อนพ้อง สร้างสรรค์โอกาสสำหรับการทำแต้มให้กับแนวรุกได้เกือบทุกครั้งเวลาลูกฟุตบอลออกมาจากเท้า

การขโมยไก่ยิงไกลที่เฉียบคม กระทั่งสามารถทำประตูให้กับสิงห์บลูถึง 211 ประตู ตลอด 429 นัดหมายที่ลงในสนามแน่ๆว่าสำหรับแฟนบอลของเชลซีและก็อังกฤษ อาจระลึกถึงกองกลางหน้าหล่อคนนี้ไม่น้อย ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่หวือหวาแม้กระนั้นสามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับกลุ่มด้วยการพักจังหวะ จ่ายบอลให้สหาย สร้างสรรค์จังหวะสำหรับเพื่อการทำแต้มให้กับแนวรุกได้ดูเหมือนจะทุกครั้งเวลาลูกฟุตบอลออกมาจากเท้า และการลักไก่ยิงไกลที่เฉียบคม จนถึงสามารถทำประตูให้กับสิงห์บลูถึง 211 ประตู ตลอด 429 นัดหมายที่ลงในสนาม

ความน่าสนใจของ “แลมพาร์ด” อยู่ที่ทางการเป็น นักเตะของเจ้าตัว ที่ไม่เหมือนกับนักเตะอังกฤษโดยมาก เพราะเหตุว่าเติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะอยู่แล้ว เป็นลูกชายของ “แฟรงค์แลมพาร์ด ซีเนียร์” อดีตตำนานนักฟุตบอลของเวสต์แฮม ทำให้สบโอกาสเรียนในโรงเรียนประจำที่เป็นของเอกชนดั้งเดิมซึ่งได้รับช่องทางด้านการศึกษาสูง (ถ้าเปรียบเทียบกับเมืองไทย ก็โรงเรียนเอกชนอย่าง “อัสสัมชัญ”, “กรุงเทพคริสเตียน”)

จากจังหวะ ด้านการศึกษา ทำให้เจ้าตัว สามารถมุ่ง ไปด้านวิชาการ แถมยังสามารถสอบ “จีซีเอสอี” ที่เปรียบการสอบเข้า มหาลัยด้วยคะแนนวิชาภาษาละติน ชั้นดีอย่างยิ่งจริงๆ

ส่วนการเข้ามาเป็นนักเตะอาชีพ แน่ๆว่าจำเป็นต้องสารภาพว่าอิทธิพลของคณพ่อมีส่วนไม่น้อย เนื่องจากว่าได้เล่นกลุ่มเยาวชนของ “เวสต์แฮม” ในยุคที่คุณพ่อเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของสมาพันธ์อยู่ รวมทั้งได้รับคำสัญญาเป็นนักเตะอาชีพตรงนั้นกระทั่งเวลาผ่านไปก็เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลตัวหลักของกลุ่มถึง แม้ว่าจะเคยถูก “สวอนซี” ยืมตัวช่วงสั้นๆในตอนนั้น โดยเจ้าตัวลงไปในสนามให้ขุนค้อน 148 นัดหมาย ยิงไป 39 ประตู

แลมพาร์ดเปิดใจ

ซึ่งผู้จัดการทีมขุนค้อนขณะนั้นก็เป็นคุณคุณลุงของเจ้าตัวอย่าง “แฮร์รี่ เร้ดแนปป์” ที่แม่ของแลมพาร์ด เป็นพี่สาวแฝดของภรรยาจ่าแฮร์รี่ พอเพียงคุณลุงรวมทั้งพ่อย้ายออกจากกลุ่ม ทำให้เจ้าตัวอยู่ภายใต้แรงกดดันของความเป็น “เด็กเส้น” ไม่น้อย แฟนผีจับตา

โดยมากจะจำยอดกองกลางลำดับที่ 8 ในสีเสื้อของเชลซีที่เจ้าตัวประสบผลสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่างกับสมาคม ไม่ว่าจะแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ยุค แชมป์เอฟเอ คัพ 4 ยุค แชมป์ลีก คัพ 2 ยุค แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วก็ ยูโรป้า ลีก อีกอย่างละ 1 ยุค ถ้าหากไปดูเหตุผลสำหรับเพื่อการย้ายกลุ่มมา “เชลซี” ก็จำต้องสารภาพว่า “ป๋า” มีส่วนไม่น้อย

สำหรับแลมพาร์ดเจ้าตัวไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมากมายหากเลือกไปทางสายอาชีพอื่น เนื่องจากว่ามีทุกสิ่งพรั่งพร้อม แม้กระนั้นเมื่อ “บอล” เป็นคำตอบของชีวิต ก็เลยจะต้องมาพิสูจน์ตัวอีกรอบ แม้กระทั่งมีคุณลุงกับบิดาที่รอช่วยเหลือเปิดโอกาสแค่ไหน แต่ว่าเจ้าตัวก็จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองท้ายที่สุดจากวันนั้น ถึงวันนี้ไม่มีอะไร จำเป็นต้องพิสูจน์อีกแล้ว เนื่องจาก “แฟรงค์แลมพาร์ด” จะแปลงเป็นอีกหนึ่ง ตำนานของพรีเมียร์ลีก และสโมสรเชลซี