แลมพาร์ดอาจไม่ได้ไปต่อ หากยังไม่สามารถพลิกสถานการณ์ของทีมได้โดยเร็ว

แลมพาร์ดอาจไม่ได้ไปต่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ดอาจได้คุมทีม เชลซี ต่ออีกไม่นาน หากยังไม่สามารถพลิกสถานการณ์ของทีมได้โดยเร็ว ซึ่งคำตอบของประเด็นนี้คือผลการแข่งขัน

เชลซี หล่นมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง หลังจากบุกแพ้ เลสเตอร์ 0-2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการแพ้เกมลีกนัดที่ 6 ในฤดูกาลนี้แล้ว และเป็นการแพ้ เกมที่ 3 จาก 5 เกมที่ ผ่านมาด้วย

สถานการณ์ของ แลมพาร์ดกำลังกดดันหนัก ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีก ที่จะโดนไล่ออก เป็นรายต่อไปแล้ว

สกายสปอร์ต สื่ออังกฤษ รายงานว่า แลมพาร์ดอาจเสียตำแหน่งเฮดโค้ช ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หากยังไม่สามารถพา เชลซี พลิกสถานการณ์ กลับมามีผลการแข่งขัน ที่ดีโดยเร็ว 

สำหรับตัวเต็ง ที่จะมานั่งเก้าอี้ ต่อจาก แลมพาร์ดมีชื่อของหน้าเดิมๆ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี, โธมัส ทูเคิ่ล และยังมี อังเดร เชฟเชนโก้ อดีตศูนย์หน้า ของทีม ที่ปัจจุบัน เป็นกุนซือทีมชาติยูเครนด้วย

แฟร้งค์แลมพาร์ด ผจก.ทีม เชลซี อ้ำอึ้งตอบคำถาม เรื่องมีผู้เล่น 11 คนแรก ที่ดีสุดหรือยัง หลังจากล่าสุด ออกไปโดน เลสเตอร์ ไล่อัด 0-2 อันดับรูดกราวมาที่แปด จากเคยมีช่วงจี้จ่าฝูง แค่สองแต้ม

บอสวัย 42 ปีกับงานสร้าง ‘สิงห์บลูส์’ ซีซั่นที่สอง อุตส่าห์ได้รับการสนับสนุนด้านขุมกำลังใหม่มากหน้า วอดวายทรัพย์สินเกิน 200 ล้านปอนด์ ทว่ายิ่งเล่นยิ่งเป๋ โดยเฉพาะข้อกังขาเรื่องเมื่อไหร่ แลมพาร์ดจะตามหานักเตะชุดที่ดีสุดเจอสักที 

พวกเราไม่ใช่สิ่งของสำเร็จรูป บางครั้ง มีนักเตะที่เล่นได้น่าประทับใจ และทำผลงานได้ดี บางครั้ง ก็มีนักเตะที่สู้เพื่อแย่งตำแหน่ง เข้ามาในทีม คุณคงไม่สามารถ เสกเวทมนตร์เสกทีม ที่ดีที่สุดขึ้นมาได้ นักเตะจะต้องแย่งตำแหน่ง ของพวกเขาเอง แลมพาร์ด กล่าวกับเว็บไซต์ทางการ

ในโลกอุดมคติคุณจะค้นพบทีมที่ปราบคู่แข่ง ได้อย่างต่อเนื่อง พวกเราเคยไม่แพ้มา 16 นัดและมันก็ง่ายมากที่จะไม่เปลี่ยนแปลงทีม เวลาที่สามารถเก็บผลการแข่งขัน แต่เมื่อคุณกำลังค้นหาฟอร์มและนักเตะกำลังพัฒนาผลงาน ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ทีม มันไม่ได้จัดตั้งตัวเองขึ้นมา

อีกเรื่องคือกระแสว่า แลมพาร์ดอาจโดนไล่ออก จากตำแหน่ง เพราะทีมลงทุนไปเยอะ แต่แลกผลงานแพ้ 6 จาก 19 แมตช์เดย์นั้น ทางบอสผู้ดีไม่กังวล เพราะเชื่อจะกู้ฟอร์มได้จากนี้ 

คงไม่สามารถติดตามฟีดแบ็คหลังเกม จากภายนอกได้ตลอด เพราะรับงานนี้โดยรู้ว่ามันจะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราเคยถูกห้ามขึ้นทะเบียนนักเตะใหม่ เราต้องสู้โดยอาศัยแค่ดาวรุ่ง แลมพาร์ด เสริม 

ปัจจุบันเรามีผู้เล่นใหม่ซึ่งเราเห็นได้ว่าพวกเขากำลังเร่งผลงาน และปรับตัวเข้ากับทีม เราแค่ต้องสู้ ทุกอย่างดูโรยด้วยกลีบกุหลาบในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น

เชลซี ไม่ใช่ทีมเดียวที่มีปัญหาและผมก็ไม่ใช่ผจก.ทีมคนเดียวที่ตกอยู่ภายใต้ความกดดัน โชคดีประการหนึ่งสำหรับผมคือตัวเองรับมือกับความกดดันได้ดี

แลมพาร์ดอาจไม่ได้ไปต่อ

ยอมรับไม่ชอบที่เราพลาดเก็บชัยชนะในการแข่งขัน แต่ผมอยากให้ทุกคนพูดกันเกี่ยวกับเรื่องวิธีที่เราขึ้นไปอยู่หัวตารางเหมือนที่เคยเป็นเมื่อเดือนก่อน

สิ่งที่ต้องกังวลคงเพียงวิธีการพาทีมหลุดออกจากช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างปัจจุบันเท่านั้น สโมสร เชลซี ของผจก.ทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด เริ่มโดนชำแหละต่อเนื่องหลังแพ้เกมที่ 6 จาก 19 แมตช์เดย์ต่อ เลสเตอร์ 0-2 วานนี้ โดย เจมี่ เร้ดแน็ปป์ แห่ง สกาย สปอร์ตส์ วิพากษณ์เรื่องความเหยาะแหยะของขุมกำลังจี้ไปที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ เบน ชิลเวลล์

สิงห์บลูส์ ถูกตอกย้ำว่าเล่นฐานะทีมเยือนไม่ดีอีกครั้งเพราะแพ้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุด โดยจุดที่ เร้ดแน็ปป์ มองว่าเป็นปัญหาคือทีมของ แลมพาร์ด แหยงเวลาโดนท้าบู๊จังหวะ 50:50 หรือท้าวิ่งแข่งประลองพลัง ก็ไม่แปลกใจหากเจอบอลสายถึกที่รออยู่ในโปรแกรมอย่าง วูล์ฟส์, เบิร์นลี่ย์, สเปอร์ส หรือ เชฟฯ ยูไนเต็ด ทุบใส่อีก 

สิ่งนี้น่าจะสร้างความผิดหวังแก่ แฟร้งค์ เหนืออื่นใดเพราะสมัยเขาเป็นนักเตะที่ผมเห็นคือหมอนั่นซ้อมหนักกว่าใครเพื่อให้ร่างกายแกร่ง แต่เกมเมื่อคืนลูกน้องเขา 1 หรือ 2 คนนุ่มนิ่มเหลือเกิน” เร้ดแน็ปป์ เป็นห่วงลูกพี่-ลูกน้องจะตกงาน

คุณไม่อยากให้เด็กตัวเองถูกเรียกว่า – ทีมติ๋ม- ทีมแกมันยังวิ่งไม่มากพอ, ทำงานหนักไม่พอ, แทบไม่เคยชนะจังหวะปะทะตัว-ต่อ-ตัว เพราะที่กล่าวมาล้วนบั่นทอนความมั่นใจทั้งสิ้น

แต่เมื่อผมเห็นทีมนั้นปัจจุบันมีอย่างน้อยหนึ่งหรือสองคนยังทุ่มเทไม่พอ แล้วเมื่อเป็นนักเตะ เชลซี จะเหยาะแหยะแบบที่แสดงออกมาไม่ได้

ผู้เล่นต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ เขาต้องทำงานให้หนักขึ้น ผมหมายถึงฟูลแบ็กอย่าง รีซ เจมส์ หรือ เบน ชิลเวลล์ ที่ซื้อมาแพง ผมอยากเห็นเขาปล่อยของมากกว่าที่แสดงมาเพราะเกมพบ เลสเตอร์ มันดูสะอึกสะอื้นไปหน่อยเมื่อสู้อดีตต้นสังกัด ทั้งที่จริงคุณต้องแสดงพลัง

คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ได้โอกาสแข่งวันนี้ แต่เขาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน? อย่างเจ้านั่นมีลุ้นสับไกแต่ก็หวดพลาดแสดงให้เห็นว่าขาดคุณภาพเพราะมันคือลูกที่เหน่งๆมากสำหรับนักเตะอาชีพ

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผจก.ทีม ลิเวอร์พูล แจ้งความคืบหน้าการฟื้นฟูหลังผ่าตัดเอ็นไขว้เข่าขวาด้านหน้าของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์แบ็กเสาหลักว่าดีวันดีคืนทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ ทั้งนี้ก็ไม่ปิดโอกาสความเป็นไปได้จะคัมแบ็คทันปลายซีซั่น 2020-21

แนวรับค่าย ‘หงส์แดง’ เพิ่งอัพวิดีโอในระหว่างการเรียกความฟิตที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐฯอาหรับ เอมิเรตส์ ว่าลงเดาะบอลกลางแจ้งบนสนามหญ้าได้แล้ว ส่วนก่อนนั้น เดยัน ลอฟเรน เซนเตอร์แบ็ก เซนิต หรือ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ตำนานแข้งดัตช์ก็แวะเวียนดูอาการพร้อมชักภาพอัพเดทแข้งวัย 29 ปีจะแกร่งกว่าเก่า

ล่าสุดบอส คล็อปป์ อัพเดทก่อนเกมกับ เบิร์นลี่ย์ ว่า ‘วีวีดี’ พัฒนาทางบวกหลายด้าน แต่ทั้งนี้ยังไม่อยากกรอบเวลาคืนสนามอาจเป็นปลายซีซั่นนี้หรือรอจบฤดูกาลหน้าย่อมได้หมด

ผมก็ไม่ทราบว่าเรื่องไหนมีโอกาสเป็นไปได้ เรื่องไหนเป็นไปไม่ได้ ไม่คิดว่าตัวเองคือคนที่เหมาะสมเพื่อฟันธงแบบ 100%” การให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ทางการ ผลบอลสด 7M / ขอรับผิดไว้เอง